กับสองล้อคลับครั้งนี้อยู่กับ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ที่ได้เปิดตัวล่าสุดของ บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุดอย่าง XMAX Tech MAX โฉม 2024 ที่มอบความเร้าใจพิเศษสุดแม็กซ์ ที่เข้ามายกระดับการขับขี่ด้วยสมรรถนะเหนือชั้น สัมผัสพิเศษแห่งความหรูหรา บ่งบอกตัวตนที่แตกต่างด้วยเอกลักษณ์ความพิเศษสุดแม็กซ์ และคุ้มค่าด้วยการรับประกันนาน ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร เช่นเคยจะมีอะไรเพิ่มเติมและมีจุดไหนที่น่าสนใจอีกบ้างนั้นไปดูกันเลย
การออกแบบดีไซนรูปโฉม XMAX รุ่นนี้
สำหรับการออกแบบ XMAX รุ่นปี 2024 ต้องบอกว่ามาพร้อมความเหนือระดับด้วย EXCLUSIVE Tech MAX SPECIAL SEAT เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ กระชับรับกับสรีระทุกการเคลื่อนไหว มั่นใจในการขับขี่, Tech MAX EMBLEM สัญลักษณ์เฉพาะตัว แสดงถึงความพิเศษ บ่งบอกตัวตนที่สุด MAX, Tech MAX FOOT PLATES ชุดรองพักเท้าด้านหน้าอะลูมิเนียมพิเศษสุดพรีเมียม แข็งแรง เพิ่มความโดดเด่นขึ้นอีกขั้น, Tech MAX HAND GRIPS ปลอกแฮนด์ดีไซน์พิเศษสำหรับ Tech MAX เพิ่มความกระชับในการควบคุม และ Tech MAX COVER FRONT LUGGAGE ฝาปิดช่องเก็บของหุ้มวัสดุพิเศษสุดพรีเมียม เพิ่มความหรูหราไปอีกระดับโด
โดดเด่นเห็นเป็นสง่า
เพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบแนว “X” MOTIF FULL LED ไฟหน้า-ไฟท้าย LED ดีไซน์เอกลักษณ์สไตล์ “X” ให้ความรู้สึกสปอร์ตดุดัน ต้นฉบับความเท่ของตระกูล MAX สว่างขึ้นชัดเจนกว่าเดิม เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ โดยพร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วย EXTRA MAX FUNCTIONS ฟังก์ชันที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น UNDERSEAT STORAGE ที่เก็บของใต้เบาะสามารถเก็บหมวกกันน็อกเต็มใบได้ 2 ใบ, DC Socket ช่องต่อไฟ
อุปกรณ์เสริม ขนาด 12V สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมช่องเก็บของด้านหน้า รวมทั้ง SMART KEY SYSTEM กุญแจรีโมทอัจฉริยะที่สามารถใช้งานทั้งสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์, ปลดล็อกแฮนด์รถ / ปลดล็อกเบาะ / ปลดล็อกฝาปิดถังน้ำมัน และส่งสัญญาณตอบรับ ANSWER BACK
อุปกรณ์เสริมที่เพิ่มเติมเข้ามา
จอแสดงผลใหม่
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเพิ่มเติมส่วนของ จอแสดงผลใหม่พร้อมการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น โดยมาพร้อมกับ DUAL DISPLAYS เรือนไมล์แสดงผล 2 หน้าจอ เพิ่มคุณค่าและตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ แสดงข้อมูลรถและการขับขี่ ข้อมูลจากสมาร์ทโฟน ตลอดจนฟังก์ชันระบบนำทาง บนหน้าจอสี TFT Infotainment 4.2 นิ้ว และจอ Digital LCD 3.2 นิ้ว แสดงผลมาตรวัดความเร็ว โดยสามารถเชื่อมต่อรถกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น Y-Connect เพื่อดึงข้อมูลต่างๆ ของรถจาก CCU มาแสดงบนหน้าจอสี TFT ได้ ซึ่งสามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยสวิตช์บนแฮนด์ด้านซ้าย
เพิ่มการเชื่อมต่อด้วย CONNECTIVITY
สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยการติดตั้งแอปพลิเคชัน Y-Connect ในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ CCU ของตัวรถสามารถใช้ผ่าน Bluetooth พร้อมทั้งเปิด Location โดยตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อได้บนจอแสดงผล TFT และสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้มากมายเลยทีเดียวฃ
ระบบนำทางในการขับขี่
NEW XMAX Tech MAX 2024 พร้อมทุกการเดินทางในทุกเส้นทางด้วย GARMIN NAVIGATION SYSTEM ระบบนำทางในการขับขี่ ฟังก์ชันสำหรับการเดินทางที่สะดวกสบาย เพียงเชื่อมต่อ Y-Connect แล้วใช้แอปพลิเคชัน Garmin Street Cross ค้นหาสถานที่ กำหนดปลายทาง และเลือกเส้นทางบนสมาร์ทโฟน ระบบนำทางจะแสดงบนหน้าจอแสดงผล TFT เพื่อรองรับการเดินทางของผู้ใช้โดยไม่มีค่าบริการ โดยสามารถซูมแผนที่เส้นทางเข้าออก หรือปรับเปลี่ยนมุมมองได้โดยใช้สวิตช์บนแฮนด์ด้านซ้ายนั่นโดยสิ่งที่ระบุ ได้แก่
- แสดงแผนที่เส้นทาง
- ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์
- แสดงเส้นทางเลี่ยงที่เป็นไปได้
- เวลาถึงที่หมายโดยประมาณ
- สภาพอากาศที่ปลายทาง
- แจ้งเตือนข้อมูลเส้นทางที่อาจไม่ปลอดภัย เช่น ทางโค้งหักศอก ทางจำกัดความเร็ว และทางที่วิ่งผ่านสถานศึกษา
- แสดงจุดสถานีบริการน้ำมัน
รายละเอียดด้านเครื่องยนต์
สำหรับ Yamaha XMAX Tech MAX ปี 2024 รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดี่ยว ขนาดความจุจริง 292 ซีซี 4 วาล์ว SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์อัตโนมัติแบบสายพาน V-Belt ถังน้ำมันมีขนาดความจุ 13 ลิตร และรองรับน้ำมัน E20 มาพร้อมกับ EXPERIENCE MAX PERFORMANCE สุดยอดสมรรถนะการขับขี่สไตล์สปอร์ต เพื่อประสบการณ์ที่เร้าใจระดับ MAX ด้วย BLUE CORE 300 cc EU5 เครื่องยนต์หัวฉีด 300 ซีซี มาตรฐาน EURO5 เทคโนโลยีแห่งความแรง และความประหยัด ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ พร้อมกระบอกสูบไดอะซิล ให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ สนุกเร้าใจในทุกระดับความเร็ว
สำหรับท่านที่สนใจ
Yamaha XMAX Tech MAX 2024 มีเฉพาะคู่สีน้ำตาล-ดำ Magma Black เพียงชุดสีเดียวที่เป็นรุ่นตกแต่งพิเศษโดยมีวางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวในราคา 224,900 บาท พร้อมกันนี้ ยามาฮ่า XMAX ในรุ่น STANDARD มาพร้อมกับสีสันที่มีให้เลือกด้วยกันถึง 5 สี คือ สีเขียว-ดำ (Dark Petrol), สีแดง-ดำ (Ruby Red), สีเทา (Ice Fluo), สีดำ (Midnight Black) และสีน้ำเงิน-ดำ (Icon Blue) ที่วางจำหน่ายในราคา 189,900 บาท และเช่นเคยหากต้องการหากต้องการอ่านรีวิวมอเตอร์ไซค์ต่อหรือเลือกอ่านหาสาระที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมสามารถคลิกมาได้ที่ลิงค์ songlorclub คลิกเลย!