เชื่อว่าต้องมีผู้อ่านบางท่านที่เคยมีประสบการณ์ตรงหรือจากคนรู้จักที่เคยเจอกับเหตุการณ์ที่น่าหงุดหงิดอย่างการที่ รถหาย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อจากนี้ดี ในช่วงภาวะที่การเงินวิกฤตเช่นนี้ผู้เขียนรู้ดีว่าไม่มีใครอยากพบพานแน่นอน แต่จะใงได้สำหรับคนที่ รถหาย ไปแล้วให้ย้อนเวลากลับไปก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ขอแนะนำให้คุณตั้งสติดีๆก่อนอย่างเพิ่งโมโหหรือวู่วามดีที่สุด เนื่องจากมีหลายคนที่ตีโพยตีพาย จิตใจห่อเหี่ยวจนทำอะไรต่อไม่ได้และหากปล่อยนานวันไป การตามหารถกลับมาโอกาสก็จะริบหรี่ลงทุกที ทางทีมงานสองล้อคลับเข้าใจถึงหัวอกของทุกท่านดีการติดตามนำเจ้ า มอเตอร์ไซค์คู่ใจ กลับมาให้ได้ จึงได้จัดบทความนี้ออกมาแนะนำถึงข้อปฏิบัติเมื่อ รถหาย โดยมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
ข้อปฏิบัติในกรณีที่เกิดเหตุ รถหาย
ลำดับเหตุการณ์และรวบรวมรายละเอียดให้ได้เยอะที่สุด
สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อรู้ตัวแล้วว่า รถหาย นั่นก็คือการเก็บรายละเอียดต่างๆ รวบรวมให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งช่วงเวลาตั้งแต่นำรถเข้าจอด ระยะเวลาที่อยู่ห่างจากตัวรถไปจนถึงขณะที่กลับมาที่จอดรถและพบว่ารถมอเตอร์ไซค์สุดที่รักได้หายไปแล้ว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำข้อมูลพวกนี้ไปวิเคราะห์ ตรวจสอบ หาแนวโน้มความเป็นไปได้ว่านับจากช่วงเวลาที่เรารู้ตัวว่า รถหาย มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดกับการใช้เส้นทางหลบหนีของผู้ลักขโมยว่าจะนำไปไว้ที่ใดกันแน่ ไม่เพียงเท่านี้ หากคุณจำปริมาณน้ำมันที่หลงเหลืออยู่ในตัวถังได้ด้วยก็จะช่วยคำนวนระยะทางในการหลบหนีได้อีกด้วย แน่นอนว่าการเฝ้ามองเข็มวัดน้ำมันทุกครั้งที่จอดรถคงไม่ใช่วิสัยปกติของหลายคนหรอก แต่เชื่อเถอะว่าในระหว่างขับรถก็ต้องมีชำเลืองมองกันบ้างแหละอย่างไรก็ดีการมีข้อมูลเหล่านี้ติดตัวไว้ย่อมช่วยให้ทางตำรวจสามารถช่วยประมาณการการนำรถออกจากพื้นที่ไปได้นั่นเอง
ตรวจสอบพยานแวดล้อมด้านอื่นๆ
อีกหนทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเราตามรถกลับมาได้และยังช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นก็คือ การติดต่อกับผู้อยู่ใกล้เคียงในที่เกิดเหตุว่าใครพอมีหลักฐานในขณะที่รถถูกขโมยไปแล้วบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่สมัยนี้ตามสถานที่ต่างๆก็มีกล้องวงจรปิดเพื่อใช้บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้แทบทุกที่แล้ว เพราะฉะนั้นด้านการติดต่อประสานงานเพื่อขอดูกล้องในทันทีเมื่อรู้ว่าตัวว่า รถหาย ถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมากเบยทีเดียส โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญในแง่ของรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่ก่อเหตุว่ามีลักษณะยังไง หลายครั้งโอกาสที่จะได้เห็นหน้าตาของคนร้ายอาจยากเพราะคนร้ายต้องปิดบังตัวเองอยู่แล้ว แต่ภาพเอกลักษณ์ของบุคคลบางอย่างจะช่วยชี้เป้าให้เห็นชัดเจนมากขึ้นว่าใครน่าจะเป็นผู้ร้ายฉกเอารถแสนรักของเราไป
ติดต่อประสานงานกับตำรวจให้เร็วที่สุด
หลังจากที่เรารวบรวมรายละเอียดที่จำเป็นต่อการตามรถได้จนครบถ้วนแล้ว ต่อมาสิ่งที่ต้องทำนั่นคือการติดต่อแจ้งความโดยเร็วที่สุด และสิ่งที่ต้องทำโดยไม่ให้เกิดความผิดพลาดคือ เช็คดูว่าสถานที่เกิดเหตุ นั้นอยู่ในท้องที่ไหน เพราะในประเทศไทยยังคงใช้ระบบของการเกิดเหตุในพื้นที่ใดต้องไปแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องที่นั้นๆ ไม่สามารถแจ้งข้ามเขตกันได้ ในกรณีที่ไม่รู้ข้อมูลมักส่งผลให้การแจ้งความผิดเพี้ยน กลายเป็นเรื่องที่เสียเวลาเข้าไปอีก แต่อย่างไรก็ต้องรีบดำเนินการแจ้งความให้ทันท่วงที หากเจ้าของรถมีหลักฐานประจำตัวรถเช่น เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การตามสืบเสาะค้นหาได้ง่ายขึ้นในระดับหนึ่ง จำไว้ว่าเมื่อต้องการแจ้งเหตุรถหายคุณสามารถโทรเข้าเบอร์ศูนย์กลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ที่เบอร์ 1192 พร้อมแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับรถให้ครบถ้วนทั้งหมด รวมไปถึงจังหวัดและสถานที่เกิดเหตุพร้อมทั้งเวลาเกิดเหตุ เพื่อทางตำรวจจะสามารถออกคำสั่งเพื่อการสกัดจับผู้ต้องหาเอาไว้ให้ได้
แจ้งข้อมูลกับทางประกันและบริษัทสินเชื่อ
ในกรณีที่รถของคุณยังอยู่ในห้วงของการผ่อนชำระ หลังจากที่แจ้งความแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำก็คือแจ้งต่อไปยังบริษัทประกันภัยที่ได้ทำเรื่องไว้รวมถึงบริษัทสินเชื่อที่ทำเรื่องซื้อขายรถ เพื่อเดินเรื่องเรียกขอสินไหมทดแทนจากกรณี รถหาย ในครั้งนี้ โดยต้องมีบันทึกประจำวันจากทางสถานีตำรวจแนบคู่ไปด้วยทุกครั้งเพื่อยืนยันว่านี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และไม่ได้เป็นการหลอกลวงแต่อย่างใด
และทั้งหมดนี้ก็คือรายบละเอียกขั้นตอนสิ่งที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุการณ์มาคาดฝันอย่างกรณี รถหาย ซึ่งมันสามารถช่วยให้คุณสามารถตามรถคืนกลับมาได้ง่ายแบะมีโอกาสสำเร็จยิ่งขึ้น และเช่นเคยหากต้องการหากต้องการอ่านรีวิวมอเตอร์ไซค์ต่อหรือเลือกอ่านหาสาระที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมสามารถคลิกมาได้ที่ลิงค์ songlorclub คลิกเลย!