หลังจากโลดแล่นในวงการบิ๊กไบค์มานานกว่า 33 ปี ในที่สุด Honda ได้ออกมาประกาศถึง CB1300 Final Edition รุ่นสุดท้ายของตำนาน “Big 1” ซึ่งจะเป็นบทสรุปของไลน์อัป CB1300 อย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคต การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับแฟนๆ Naked Bike ขนาดใหญ่ ทั่วโลก ที่ต่างรอคอยและให้ความสนใจ ล่าสุด Honda Motorcycle Japan ได้ปล่อย ทีเซอร์แรกของ CB1300 Final Edition ซึ่งเผยให้เห็นดีไซน์สุดคลาสสิกที่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ พร้อมเสริมเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยยกระดับสมรรถนะให้สมกับการเป็นรุ่นอำลาของตำนาน CB1300
ย้อนรอย Honda CB1300 จากอดีตถึงปัจจุบัน
Honda CB1300 เป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์สาย Naked Bike ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจุดเริ่มต้นของตำนานนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1992 กับการเปิดตัว Honda CB1000 SUPER FOUR ซึ่งเป็นโมเดลแรกของกลุ่ม “Big Naked” ที่มาพร้อมกับขนาดตัวรถที่ใหญ่แต่ยังให้ความคล่องตัวสูง
วิวัฒนาการของ CB1300

1992 – Honda CB1000 SUPER FOUR
เป็นรุ่นแรกของตระกูล Big 1 ที่สร้างความฮือฮาด้วยการออกแบบเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 998 ซีซี พร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และกลายเป็นที่นิยมในตลาด Naked Bike
1998 – Honda CB1300
มีการอัปเกรดเครื่องยนต์ให้มีขนาด 1,284 ซีซี พร้อมเพิ่มแรงบิดและพละกำลังที่สูงขึ้น
ดีไซน์มีการปรับให้มีลักษณะคล้าย Cruiser มากขึ้น ฐานล้อที่ยาวขึ้น ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น

2003 – Honda CB1300 รุ่นปรับโฉมใหม่
ถูกออกแบบมาเพื่อต่อกรกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Yamaha XJR1300
มีการเปลี่ยนแปลงระบบช่วงล่างและเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น
2005 – Honda CB1300 Super Bol d’Or
รุ่นพิเศษที่มาพร้อมแฟริ่งครึ่งท่อน เพิ่มความดุดัน และให้การป้องกันลมที่ดีขึ้น
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา CB1300 ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นหนึ่งในรถคลาส 1,000 ซีซีขึ้นไปที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด
CB1300 Final Edition มาพร้อมสมรรถนะระดับสูงสุด
เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวด Honda CB1300 Final Edition ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,284 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า (PS) ที่ 7,750 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 111.8 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที แม้จะเป็นรุ่นสุดท้าย แต่ Honda ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและผ่านมาตรฐาน Euro 5+
เทคโนโลยีใหม่ที่ยกระดับการขับขี่
CB1300 Final Edition มาพร้อมกับการอัปเกรดที่ช่วยให้ขับขี่ได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
- คันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-wire) รุ่นใหม่
- ช่วยให้การตอบสนองของเครื่องยนต์แม่นยำมากขึ้น
- มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ
- ระบบ Traction Control ป้องกันล้อหมุนฟรีและช่วยให้การควบคุมรถมีเสถียรภาพมากขึ้น
- ระบบ Cruise Controlเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล
แม้ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่คงเอกลักษณ์ความเป็นรถ Naked Bike ขนาดใหญ่เอาไว้ แต่ Honda ได้เสริมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไป ทำให้ CB1300 Final Edition เป็นรุ่นอำลาที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ดีไซน์สุดคลาสสิก ผสานความร่วมสมัย
จากภาพทีเซอร์ของ Honda CB1300 Final Edition ที่ถูกปล่อยออกมา เราจะเห็นว่าตัวรถยังคงเอกลักษณ์ของ CB1000 SUPER FOUR รุ่นแรกปี 1992 ด้วยการเลือกใช้สีแดงเป็นสีหลัก ตัดด้วย ตัวถังสีบรอนซ์ ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต นอกจากนี้ คาดว่ารุ่น Final Edition จะมี ลวดลายพิเศษและตราสัญลักษณ์เฉพาะรุ่น ที่จะช่วยให้มันเป็นรถที่สะสมได้และมีมูลค่าในอนาคต

CB1300 Final Edition อาจเป็นของสะสมในอนาคต
เนื่องจาก CB1300 Final Edition เป็น รุ่นสุดท้าย ในสายการผลิตของตระกูล Big 1 ซึ่งหลังจากนี้ Honda มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงโมเดลใหม่ทั้งหมด และอาจจะต้องรอถึงปี 2027 กว่าที่ Honda จะเปิดตัว CB1300 เจนเนอเรชั่นใหม่