เวลาพูดถึงระบบเบรกหลายคนจะนึกถึงผ้าเบรก จานเบรคก่อน แต่จริง ๆ คาลิปเปอร์เบรค เป็นตัวที่ทำงานหนักและซับซ้อนที่สุดตัวหนึ่ง ถ้าเปรียบให้เห็นภาพ คาลิปเปอร์เป็นเหมือนมือที่คอยบีบผ้าเบรคให้หนีบจาน เบรคจะอยู่ไม่อยู่ นิ่มแข็ง มีเสียงไม่มีเสียง คุมง่ายหรือไม่ ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ชิ้นนี้เลย ซึ่งบทความนี้จะพาไปรู้จัก คาลิปเปอร์เบรค แบบครบ ๆ ตั้งแต่หน้าที่ ประเภท อาการเสีย การซ่อมเปลี่ยน ราคาคร่าว ๆ ของอุปกรณ์ชิ้นนี้

คาลิปเปอร์เบรก คือ อะไร อยู่ตรงไหนในรถเรา
คาลิปเปอร์เบรค อยู่บนรถที่มีดิสก์เบรค ถ้ามองไปที่ล้อจะเห็นจานกลม ๆ กับก้อนโลหะที่หนีบอยู่ด้านข้าง นั่นแหละคืออุปกรณ์ชิ้นนี้ ซึ่งหน้าที่หลักจะเน้นการรับแรงดันน้ำมันเบรคจากแม่ปั๊ม แปลงแรงดันนั้นเป็นแรงดันลูกสูบดันผ้าเบรค และทำให้ผ้าเบรกหนีบจานจนล้อช้าลงหรือหยุดหมุน ดังนั้น ถ้าไม่มี คาลิปเปอร์ เบรก ก็ทำงานไม่ได้เลย ต่อให้ผ้าจานดีแค่ไหนก็ตาม

คาลิปเปอร์เบรก มีกี่ประเภท
1.คาลิปเปอร์เบรค แบ่งตามโครงสร้างติดตั้ง
Fixed Caliper คาลิปเปอร์เบรก แบบยึดตายตัวและ Floating / Sliding Caliper คาลิปเปอร์แบบลอย
2.คาลิปเปอร์เบรค แบ่งตามจำนวนลูกสูบ
- 1 ลูกสูบ: ใช้กับรถเล็กถึงรถขนาดกลางทั่วไป แรงเบรคเพียงพอสำหรับใช้งานประจำวัน
- 2–4 ลูกสูบ: กระจายแรงหนีบผ้าเบรคดีขึ้น หนีบนุ่มและแรงขึ้น มักใช้ในสปอร์ตหรือรถแต่ง
- 6 ลูกสูบขึ้นไป: ใช้กับสายซิ่ง สายสนาม แรงเบรคจัดมาก แต่ต้องจับคู่กับจาน ผ้า ยางดี ๆ และตั้งระบบให้เหมาะ
อาการที่บอกว่า คาลิปเปอร์เบรก เริ่มมีปัญหา
- ล้อฝืด หรือเบรคค้าง: เข็นรถรู้สึกหนักผิดปกติ ล้อหมุนไม่ฟรี, แตะจานเบรคหลังขี่มาไม่นาน รู้สึกร้อนเกินไป ส่วนใหญ่เกิดจากลูกสูบคาลิปเปอร์เบรคสกปรกหรือยางโอริงบวม ทำให้ลูกสูบไม่คืนตัว
- บีบแล้วเบรคไม่ค่อยอยู่: ก้านเบรคไหลลึก ต้องบีบแรงขึ้น, ใช้ระยะเบรคไกลกว่าปกติ และอาจเกี่ยวกับน้ำมันเบรคมีฟอง เก่า ผ้าเบรคบาง หรือคาลิปเปอร์มีอากาศในระบบ ลูกสูบทำงานไม่สมบูรณ์
- เสียงหอน จี๊ด ๆ ตอนเบรค: ไม่ใช่ผ้าเบรคอย่างเดียวที่ทำให้มีเสียง ถ้าผ้าเบรคเปลี่ยนใหม่แล้ว ยังมีเสียง อาจเกิดจาก คาลิปเปอร์เบรค สกปรก, ผ้าเบรคสวมไม่เต็มหน้าเพราะรางเลื่อนฝืด และผิวหน้าจาน หน้าผ้าไม่ขนานกัน
- น้ำมันเบรครั่วบริเวณคาลิปเปอร์: เห็นคราบน้ำมันเหนียว ๆ ตรงคาลิปเปอร์ หรือน้ำมันในกระปุกลดลงเร็วผิดปกติ ถ้าหากเจออาการแบบนี้ต้องรีบซ่อม เพราะน้ำมันเบรคหาย เท่ากับแรงดันหาย อาจทำให้เบรคไม่อยูได้
คาลิปเปอร์เบรก พัง ต้องซ่อมยังไง
1. ล้างและโอเวอร์ฮอล (Overhaul)
วิธีซ่อม คาลิปเปอร์เบรค ด้วยการล้างและโอเวอร์ฮอล เหมาะกับกรณีลูกสูบฝืด รางเลื่อนสกปรก หรือยางโอริงเริ่มเสื่อม โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- ถอดคาลิปเปอร์ออกจากล้อ
- ถอดลูกสูบ ซีล ยางโอริงออก
- ล้างคราบสกปรก คราบผงผ้าเบรคด้วยน้ำยาที่เหมาะสม
- เปลี่ยนซีล โอริง ยางกันฝุ่นใหม่
- ประกอบกลับ ใส่จาระบีเฉพาะในจุดที่ควรใส่
- ไล่น้ำมันเบรค ไล่ลมในระบบให้แน่น
ราคาค่าซ่อม คาลิปเปอร์เบรก ด้วยการล้างและโอเวอร์ฮอล จะมีค่าชุดซ่อมคาลิปเปอร์ 200–800 บาท/ล้อ และค่าแรงล้าง โอเวอร์ฮอล 300–800 บาท/ล้อ แล้วแต่ร้านและรุ่นอีกที
2. เปลี่ยนคาลิปเปอร์ทั้งชุด
การเปลี่ยน คาลิปเปอร์เบรค ยกชุด จะใช้ในกรณีตัวเรือนคาลิปเปอร์ร้าว แตก หรือสนิมกินหนักมาก ซ่อมไม่คุ้ม รวมถึงคนที่อยากอัปเกรดเป็นคาลิปเปอร์เบรคแต่ง
ราคาค่าเปลี่ยน คาลิปเปอร์เบรก ทั้งชุด หากเป็นคาลิปเปอร์แท้ติดรถของศูนย์ ประมาณ1,500–5,000+ บาท/ข้าง, คาลิปเปอร์แต่งแบรนด์ดัง หลักพันกลางถึงหลักหมื่น แล้วแต่สเปก และยังมีค่าแรงเปลี่ยนกับไล่ลมเบรค 200–400 บาท/ล้อ

การดูแล คาลิปเปอร์เบรก ในชีวิตประจำวัน
- ล้างล้อ จาน คาลิปเปอร์เป็นประจำ: ใช้น้ำ โฟมล้างรถและแปรงขนนุ่ม ๆ ป้องกันไม่ให้ผงผ้าเบรคหรือมีฝุ่นเกาะหนา
- เลี่ยงฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ตรง ๆ: เพราะแรงดันจะดันน้ำเข้าซีลยางกันฝุ่น ทำให้สนิมขึ้นง่าย
- เปลี่ยนน้ำมันเบรคตามระยะ: ปกติ 1–2 ปีต่อครั้ง หรือตามคู่มือ น้ำมันเบรคเก่าดูดความชื้น ทำให้ลูกสูบขึ้นสนิมและเกิดฟองได้ง่าย
- สังเกตความร้อนจานเบรค: หลังวิ่งทางสั้น ๆ ถ้าจานร้อนจี๋ผิดปกติ อาจมีเบรคค้าง ควรให้ช่างเช็กคาลิปเปอร์เบรค
- ฟังเสียงและฟีลลิ่งเบรค: ถ้าเสียงหรือระยะเบรคเปลี่ยนไปจากเดิมชัด ๆ อย่ามองข้าม
สรุป คาลิปเปอร์เบรก ดีก็ช่วยเบรคได้มั่นใจ
สรุปสุดท้ายแล้ว คาลิปเปอร์เบรค นั้นสำคัญมากต่อระบบดิสก์เบรค ถ้าดูแลดี ล้างเป็นระยะ เปลี่ยนน้ำมันเบรคตามกำหนด คอยสังเกตอาการฝืด ค้าง เสียงดัง และไม่ปล่อยให้สนิมหรือคราบสกปรกสะสม ระบบเบรคของคุณก็จะทำงานเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการเบรคที่สั้น ลงเขาได้มั่นใจ ขี่ในเมืองก็ไม่กังวล ขอแค่ไม่มองข้ามก้อนโลหะเล็ก ๆ ข้างจานเบรคชิ้นนี้ รถของคุณก็พร้อมจะหยุดได้ทันทุกครั้งที่คุณต้องการจริง ๆ!