ไม่ว่าจะขี่ทุกวันหรือแวะปั๊มเป็นครั้งคราว หลายคนมีโอกาส เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ ได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะตอนรีบ หัวจ่ายหลากหลาย หรือชื่อเชื้อเพลิงคล้ายกัน ความผิดพลาดเล็ก ๆ อาจทำให้รถสะดุด ดับกลางทาง ไปจนถึงงานเครื่องใหญ่ได้ถ้าจัดการไม่ถูก บทความนี้สรุปมาให้ครบแล้วในเรื่องของ เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ เติมผิดแบบไหนเสี่ยงอะไรบ้าง ตั้งแต่อาการเตือน วิธีรับมือทันที วิธีล้างระบบสำหรับหัวฉีด คาร์บู ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ไปจนถึงทริกป้องกันไม่ให้ผิดซ้ำ
เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ แบบไหนอันตรายที่สุด
เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ แบบที่อันตรายที่สุด มีอยู่ด้วยกัน 4 กรณี ได้แก่ ดีเซลลงเครื่องเบนซิน หนักสุด, เติมแก๊สโซฮอล์เอทานอลสูงในรถที่ไม่รองรับ, ค่าออกเทนต่ำกว่าที่ผู้ผลิตกำหนด และการใส่น้ำมันเครื่องผิดช่อง โดยแต่ละกรณีจะรายละเอียดที่ต้องระวังต่างกันออกไป ดังนี้
ดีเซลลงเครื่องเบนซิน หนักสุด
กรณี เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ แบบนี้ เครื่องยนต์เบนซินจะสตาร์ทยาก หรือติดไม่ได้เลย เพราะดีเซลจุดระเบิดด้วยการอัด ไม่ใช่หัวเทียน นอกจากไม่เผาไหม้แล้ว ดีเซลหนืด ทำให้หัวฉีดและคาร์บูอุดตัน รวมถึงการเกิดคราบควันดำเกาะท่อไอเสีย
เติมแก๊สโซฮอล์เอทานอลสูงในรถที่ไม่รองรับ
เอทานอลดูดความชื้นและมีคุณสมบัติทำละลาย คราบ สนิมในถังอาจหลุดไปอุดหัวฉีด ซีลยาง–ท่อเก่าบวม กินเชื้อเพลิงมากขึ้น รถสะดุด วูบ โดยเฉพาะรุ่นเก่าหรือคาร์บูเรเตอร์ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเอทานอลสูง
ค่าออกเทนต่ำกว่าที่ผู้ผลิตกำหนด
ถ้ารถระบุ 95 แต่เติม 91 หรือใช้แก๊สโซฮอล์ที่ออกเทนป้ายสูงแต่เทียบเคียงจริงต่ำ ในบางสภาวะอาจเกิดอาการน็อค รอบไม่เรียบ กำลังตก จนกลายเป็นเสี่ยงเกิดความร้อนสะสมและสึกหรอเร็ว
ใส่น้ำมันเครื่องผิดช่อง
รถ 4 จังหวะห้ามเทน้ำมันเครื่องลงถังเชื้อเพลิง ส่วนรถ 2 จังหวะที่มีถังน้ำมัน 2T แยก หากสลับช่อง รถจะควันดำ อืด และหัวเทียนดำสนิท
อาการเตือนทันทีหลัง เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์
- สตาร์ทไม่ติด ติดยาก ต้องกดสตาร์ทย้ำ
- เดินเบาสะดุด เร่งไม่ขึ้น วูบเมื่อเปิดคันเร่ง
- มีควันดำ กลิ่นแปลกจากท่อไอเสีย
- ไฟเครื่องยนต์ โชว์ในรถหัวฉีดบางรุ่น
- อัตราสิ้นเปลืองแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าเริ่มมีอาการอย่าฝืนเค้นให้หาย เพราะยิ่งหมุนเครื่องนาน ๆ เชื้อเพลิงที่ผิดชนิดจะไหลลึกเข้าไปในรางหัวฉีด ห้องเผาไหม้ ท่อไอเสีย ทำให้ล้างระบบยากขึ้นและค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ ทำอย่างไรให้เสียหายน้อยที่สุด
- อย่าเพิ่งสตาร์ท ถ้ายังไม่ได้สตาร์ทเลย โอกาสรอดสูงสุด
- จอดในที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน ดันรถเข้าข้างทาง
- ถ่ายรูปหัวจ่าย ใบเสร็จ เก็บหลักฐานไว้คุยกับปั๊มหรือประกัน
- โทรขอความช่วยเหลือ เรียกช่าง รถลากไปอู่ใกล้ที่สุด
- ห้ามดูด หรือถ่ายเองโดยไม่มีอุปกรณ์ เชื้อเพลิงติดไฟง่าย ควันพิษ อันตราย
- ถ้าเติมผิดแล้วเผลอขี่ออกมาจนรถเริ่มสะดุด ให้หยุดขี่ทันที เพื่อลดการไหลเวียนเชื้อเพลิงผิดชนิด
วิธีล้างระบบเชื้อเพลิง หัวฉีด vs คาร์บูฯ
หลักการ คือ เอาของผิดออกให้หมด เติมของถูก และไล่อากาศ ความชื้นออก รายละเอียดต่างกันตามระบบเชื้อเพลิง ซึ่งขั้นตอนเบื้องต้น มีดังนี้
รถหัวฉีด
- ดูด ถ่ายน้ำมันในถังออก ให้มากที่สุด
- ถอด–เป่ารางหัวฉีด และหัวฉีด ด้วยเครื่องอัลตร้าโซนิก เครื่องล้างหัวฉีด พร้อมเปลี่ยนไส้กรองเชื้อเพลิง
- รื้อ เป่าลิ้นเร่ง ล้างคราบ
- เติมน้ำมันชนิดที่ถูกต้อง 100%
- รีเซ็ตค่า ECU ตามคู่มือรุ่นรถ แล้วสตาร์ทตรวจรอยรั่ว กลิ่น ควัน
รถคาร์บูเรเตอร์
- ถ่ายถัง แล้วล้างด้วยน้ำมันชนิดที่ถูกต้อง
- เปิดก๊อก ถอดคาร์บู ถอดถ้วยลูกลอย–นมหนู ล้าง เป่าด้วยลมและน้ำยาทำความสะอาดคาร์บู
- เปลี่ยนกรองน้ำมัน และเช็คก๊อกท่อไม่บวมจากเอทานอล
- เติมเชื้อเพลิงที่ถูกต้อง ตั้งรอบเดินเบาใหม่หากจำเป็น
กรณีมีดีเซลปนให้ใส่ใจการล้างท่อไอเสียและกระบวนการเผาคราบ จนไอเสียใสขึ้น ถ้าควันยังดำ–กลิ่นแรง อาจต้องถอดหม้อพักเพื่อล้าง
เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
- ดูด–ถ่ายเชื้อเพลิง และเติมใหม่: 300–800 บาท
- ล้างหัวฉีด ราง พร้อมเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิง: 800–2,000 บาท
- ล้างคาร์บูเรเตอร์ทั้งลูก กับเปลี่ยนกรอง: 500–1,200 บาท
- ตรวจ เปลี่ยนท่อ–ซีลยาง: 200–800 บาท
- รถลาก: 300–800 บาท
หากปั๊มระบุหัวจ่ายผิดพลาดจริง บางแห่งอาจรับผิดชอบค่าแก้ไข หลักฐานรูป ใบเสร็จและการแจ้งทันทีช่วยได้มาก
เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ ล้างถังแล้วอาจยังไม่จบง่าย ๆ
- เดินเบายังไม่นิ่ง สะดุดเป็นพัก ๆ แปลว่าอาจมีคราบตกค้างที่หัวฉีด/นมหนู
- เร่งต้นอืด–ควันดำ หมายความว่าดีเซลตกค้างในท่อไอเสีย หม้อพัก
- กลิ่นน้ำมันแรงผิดปกติ เพราะมีรอยรั่วที่ข้อต่อหรือซีลบวมจากเอทานอล
- ไฟ FI โชว์ซ้ำ ควรอ่านโค้ดด้วยสแกนเนอร์และตรวจเซนเซอร์ O2/MAF/MAP (ตามรุ่น)
สรุป เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ ต้องหยุด ถ่าย ล้าง และเติมถูกให้ไวที่สุด
สรุปเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ เติมน้ำมันผิด มอเตอร์ไซค์ การหยุดความเสียหายตั้งแต่นาทีแรก เป้นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด ฉะนั้นเมื่อรู้ตัวแล้วอย่าสตาร์ท ไม่ฝืนขี่ เก็บหลักฐาน และถ่าย–ล้างระบบให้หมดจดตามชนิดความผิดพลาด รถหัวฉีดให้ความสำคัญกับการล้างหัวฉีด รางและเปลี่ยนกรอง ส่วนคาร์บูเน้นล้างนมหนู–ถ้วยลูกลอย เติมเชื้อเพลิงถูกต้องและทดสอบอย่างใจเย็น หลังจากกลับมาวิ่งได้แล้ว พยายามตรวจสอบอาการอีกครั้งหนึ่ง เพราะมันอาจจะยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพื่อให้กลับมาขับขี่ได้มั่นใจเหมือนเดิม แบบไม่ต้องลุ้นว่าวันนี้จะเผลอเติมผิดอีกไหม