เรียกได้ว่าเปิดตัวมาได้ระยะหนึ่งแล้วสำหรับ เนกเกตไบค์ สัญชาติออสเตรียอย่าง KTM 130 Super Duke R ปี 2024 โดยโฉมล่าสุดนี้ได้มีการพัฒนาในหลายส่วนด้วยกัน ส่งผลให้ทางแบรนด์ยังคงรักษาแนวทางของรถซุปเปอร์เนกเกตไบค์รุ่นเรือธงจากค่ายสีส้มแป๋นอย่าง KTM เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งกับสองล้อคลับในบทความนี้ทาทีมงานก็ได้ไปรวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์คันนี้มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งดีไซน์การออกแบบรวมไปถึงพละกำลังเครื่องยนต์จะถูกอกถูกใจทุกคนหรือไม่ไปดูกันต่อเลย!
ด้านการดีไซน์ KTM 130 Super Duke R เวอร์ชันล่าสุดนี้

ต้องบอกเลยว่าทางแบรนด์ KTM ต้องการให้รุ่น 130 Super Duke R โฉม 2024 ถูกพัฒนาและดีไซน์ใหม่แทบจะทุกส่วน ให้ความโดเด่นด้วยไฟหน้าทรงใหม่ ที่ทางผู้ผลิตตั้งใจนำเสนองานออกแบบที่ถ่ายทอดองค์ประกอบของงาน Sci-Fi ที่ผสานเครื่องจักรเข้ากับสัตว์อสูรในตำนานได้อย่างลงตัว เกิดเป็นดีไซน์ใหม่สุดแปลกแหวกแนวอย่างมากหากลองเทียบกับรุ่นก่อนหน้าแต่ผลงานที่ออกมากับน่าพอใจเลยทีเดียว ด้วยการเลือกใช้ไฟ LED แบบแยกส่วน ทำให้สร้างจุดสนใจให้กับตัวรถ รวมไปถึงตัวถังที่ออกแบบมาใหม่ ซึ่งจะเน้นให้เห็นถึงสัดส่วนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ตัวรถนั้นมีความเหลี่ยมความคม และโค้งมนแบบไม่เหมือนใคร
ความพิเศษในรุ่นนี้

ในส่วนของความพิเศษที่ทางแบรนด์ได้ใส่เข้ามาในตัว KTM 130 Super Duke R รุ่นนี้ได้แก่ระบบคันเร่งไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมดมาตรฐาน Street, Rain, Sport และ Performance โดยมีแพ็กเกจเสริมอย่าง Track ที่มีคุณสมบัติในการปิดการทำงานของระบบ ABS ได้ทั้งล้อหลัง หรือปิดพร้อมกันทั้ง 2 ฝั่ง รวมไปถึงคุณสมบัติ ABS Pro ที่สามารถปรับระดับอัตราการตอบสนองต่อการใช้งานเบรก ได้ทั้งบนทางตรงและในโค้ง โดยการปรับตั้งค่าต่างๆ ผ่านหน้าจอแสดงผลแบบ TFT บนตัวรถได้อย่างครบถ้วน
ออกแบบมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น
ใน KTM 130 Super Duke R นั้นจะเห็นได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจาก Trellis Frame ไปใช้โครงสร้างแบบ Backbone ที่ให้ความแข็งแรงมากกว่า ซึ่งโครงสร้างชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้รองรับกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น และยังสามารถรองรับพละกำลังของตัวรถและแรงบิดมหาศาลที่เพิ่มขึ้น ในรอบที่ต่ำกว่าเดิม ทางด้านระบบกันสะเทือทาง KTM ได้เลือกใช้ยี่ห้อที่หลายท่านคุ้นเคยอย่าง WP โดยที่ด้านหน้าจะเป็นโช้คอัพแบบหัวกลับรุ่น Apex ขนาด 48 มิลลิเมตร ที่สามารถปรับระดับได้อย่างอิสระ ด้านหลังจะเป็นโมโน-โช้ค Piggyback ที่แยกสัดส่วนการตั้งค่า โดยที่ไม่ต้องใช้งานเครื่องมือในการปรับแต่ง และยังทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังอลูมิเนียมแบบ Single Side อีกต่างหาก
รายละเอียดด้านเครื่องยนต์

ขุมพลังที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมของเจ้า KTM รุ่นนี้ตัวมาในเครื่องยนต์ใหม่ที่อิงมาจากพื้นฐานของเครื่องยนต์ LC8 แบบ V-twin ดั้งเดิมของบริษัท แต่มีการปรับปริมาณกระบอกสูบใหม่ ส่งผลให้เครื่องยนต์นั้นมีความจุเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 1,350 CC และยังสามารถรีดกำลังสูงสุดได้ 190 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที และยังมีการปรับอัตราทดเกียร์ 6 สปีดขึ้นมาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับอัตรากำลังที่เปลี่ยนแปลงไปของเครื่องยนต์ โดยตัวรถจะส่งกำลังผ่านชุดโซ้ไปยังล้อหลัง โดยมีระบบ Assist Clutch ช่วยเหลือในการเข้าเกียร์ที่นุ่มนวลและป้องกันการจับตัวของแผ่นคลัตซ์ในจังหวะลดเกียร์อย่างกระทันหัน
ระบบเบรกในรุ่นนี้
ด้านหน้าของเจ้า KTM 130 จะมาพร้อมกับจานดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรก Brembo Stylema ส่วนด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรกแบบ 1 พอร์ต ในขณะที่ขอบล้อจะมีขนาด 17 นิ้วเท่ากันทั้งสองฝั่ง สวมด้วยยาง Micherin Power GP ขนาด 120/70-17 และ 200/55-17 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานขอมอเตอร์ไซค์คันนี้
สำหรับท่านที่สนใจ

และท่านใดที่ต้องการเป็นเจ้าของ KTM 130 Super Duke R ในส่วนของราคาค่าตัวนั้นทางแบรนด์ได้ผลิตออกมาด้วยกันสองรุ่น ประกอบด้วยรุ่นมาตรฐาน และรุ่น EVO ที่จะเพิ่มเติมเข้ามาในเรื่องของอุปกรณ์บนตัวรถแบบพิเศษ และเพิ่มระบบช่วยเหลือที่มีชั้นเชิงสูงกว่า โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 21,499 ดอลล่าร์ หรือคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ 752,035 บาท สำหรับราคานี้ยังไม่รวมภาษีและค่าต่างๆ ในกรณีที่เข้ามาทำตลาดในไทย
เพราะหากเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง 1290 Super Duke R รุ่นล่าสุดที่เข้ามาขายในบ้านเราเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมาจะมีราคาจำหน่ายผ่านตัวแทนอย่างเป็นทางการที่ 1.32 ล้านบาท เพราะฉะนั้นหากเข้ามาทำตลาดในไทยจริง ราคาก็ไม่น่าจะต่ำกว่าราคาเดิมอย่างแน่นอน และเช่นเคยหากท่านผู้อ่านท่านใดต้องการอ่านสาระดีๆเกี่ยวกับชาวส้องล้อหรือติดตามการรีวิวรถเพิ่มเติมสามารถคลิกได้ที่ลิงค์ songlorclub นี้คลิกเลย!