รู้จัก ‘จุดอับสายตา’ ระหว่างขับรถคืออะไร? และวิธีหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ 

รู้จัก ‘จุดอับสายตา’ ระหว่างขับรถคืออะไร? และวิธีหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
หัวข้อน่าสนใจ

การขับขี่บนท้องถนนเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการมีสติและความระมัดระวังสูงสุด โดยเฉพาะเรื่อง “จุดอับสายตา” หรือที่หลายคนเรียกว่า “Blind Spot” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากกระจกมองข้างหรือกระจกมองหลัง หากไม่ระวังและไม่รู้จักการจัดการกับจุดอับในการมองเห็นเหล่านี้ อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ในบทความนี้ Songlorclub อยากจะพาทุกคน หรือผู้ที่ใช้รถเป็นประจำมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Blind Spot ระหว่างขับรถคืออะไร และวิธีการหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย

จุดอับสายตา
Blind Spot เป็นบริเวณรอบๆ รถที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยการใช้กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง

จุดอับสายตาคืออะไร?

จุดอับสายตา หรือ Blind Spot เป็นบริเวณรอบๆ รถที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยการใช้กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง หรือแม้กระทั่งการหันหัวมองในบางครั้ง สาเหตุหลักเกิดจากการที่โครงสร้างของรถมีเสา (Pillars) และตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับขี่อาจทำให้มุมมองบางส่วนถูกบัง ตัวอย่างเช่น การมองไม่เห็นรถที่ขับอยู่ข้างๆ เมื่อเปลี่ยนเลน หรือไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่เข้ามาใกล้บริเวณด้านหลัง

ตำแหน่งของจุดอับสายตาที่พบบ่อย

  • ด้านข้างรถ: บริเวณด้านข้างโดยเฉพาะใกล้กับกระจกมองข้าง ที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้จากกระจกปกติ
  • ด้านหลังรถ: โดยเฉพาะกับรถที่มีความสูง หรือรถที่ไม่มีระบบกล้องมองหลัง รถที่ขับตามมาจากด้านหลังอาจหลุดจากมุมมองของผู้ขับขี่
  • ด้านหน้าของรถ: รถบางรุ่นมีเสา A-Pillar ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจบังมุมมองด้านหน้าขณะเลี้ยว หรือขณะมองทางแยก
ทำไมจุดบอดถึงอันตราย?
ทำไมจุดบอดถึงอันตราย?

ทำไมจุดอับสายตาถึงอันตราย?

เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนเลน หรือต้องการเลี้ยวหรือเบี่ยงออกจากถนน เมื่อรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์อยู่ใน Blind Spot และผู้ขับขี่ไม่สามารถเห็นได้ การเปลี่ยนเลนโดยไม่เช็คจุดนี้จะทำให้เกิดการชนกระแทกได้ง่ายๆ

อุบัติเหตุที่เกิดจากจุดอับสายตามักมีสาเหตุจาก:

  1. การเปลี่ยนเลนโดยไม่เช็ค: เมื่อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์อยู่ใน Blind Spot ผู้ขับขี่ที่ไม่หันมองหรือไม่เช็คกระจกจะไม่เห็นยานพาหนะเหล่านั้น ซึ่งเสี่ยงต่อการชนกัน
  2. เลี้ยวหรือออกจากทางแยกโดยไม่ระวัง: ขณะที่หันหัวหรือมองข้ามเสาที่บังทัศนวิสัย ผู้ขับขี่อาจไม่เห็นคนเดินถนนหรือจักรยานยนต์ที่กำลังเข้าใกล้
  3. การขับในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวหลายเลน: ถนนที่มีการจราจรหนาแน่น มักมีรถจำนวนมากเข้าใกล้บริเวณที่เป็น Blind Spot เช่น รถที่อยู่เลนข้างๆ ที่กำลังจะแซง
จุดบอดในการมองเห็น
จุดบอดในการมองเห็น

วิธีลดความเสี่ยงจากจุดอับสายตา

ถึงแม้ว่าการมี Blind Spot จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในรถหลายๆ รุ่น แต่ผู้ขับขี่สามารถลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากจุดนี้ได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. ปรับกระจกมองข้างอย่างถูกต้อง

การปรับกระจกมองข้างเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลด Blind Spot หลายคนอาจปรับกระจกมองข้างให้เห็นส่วนของรถตนเอง แต่จริงๆ แล้ว ควรปรับให้เห็นถนนด้านข้างมากกว่าส่วนตัวรถ วิธีที่แนะนำคือให้กระจกมองข้างอยู่ในตำแหน่งที่คุณสามารถมองเห็นถนนข้างๆ โดยไม่เห็นตัวรถของคุณเอง

2. ใช้กระจกมอง

ปัจจุบันรถหลายรุ่นมีระบบกระจกมอง Blind Spot Mirror เป็นกระจกเสริมขนาดเล็กที่ติดอยู่บนกระจกมองข้าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมุมมองในบริเวณที่ปกติกระจกมองข้างไม่สามารถมองเห็นได้ คุณสามารถติดตั้งกระจกชนิดนี้เองในรถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว

3. หันมอง (Head Check) ก่อนเปลี่ยนเลน

แม้ว่าคุณจะปรับกระจกมองข้างอย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังมีจุดอับการมองเห็นอยู่ การหันหัวมองเช็ค (Head Check) ก่อนเปลี่ยนเลนเป็นการป้องกันขั้นสุดท้ายที่ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อขับในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีรถจักรยานยนต์เข้ามาใกล้

4. ใช้เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่

รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มักมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบเตือนจุดอับระกดับการมองเห็น (Blind Spot Detection System) หรือ กล้องรอบคัน (Surround View Camera) ซึ่งจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับระดับการมองเห็นและช่วยให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนเลนหรือหันเลี้ยว

5. รักษาระยะห่างจากรถคันอื่น

การขับขี่โดยรักษาระยะห่างจากรถคันอื่นให้เพียงพอ จะช่วยลดโอกาสที่รถของคุณจะเข้าไปอยู่ใน Blind Spot ของผู้อื่น และป้องกันไม่ให้รถคันอื่นเข้ามาในจุดอับระดับการมองเห็นของคุณได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อขับในความเร็วสูงบนถนนสายหลัก

เคล็ดลับสำหรับการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากจุดอับสายตา
เคล็ดลับสำหรับการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากจุดอับสายตา

เคล็ดลับสำหรับการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากจุดอับสายตา

  1. หลีกเลี่ยงการขับขี่ในจุดอับระดับการมองเห็นของรถคันอื่น: พยายามหลีกเลี่ยงการขับขี่อยู่ในตำแหน่งที่เป็น Blind Spot ของรถคันใหญ่ เช่น รถบรรทุกหรือรถบัส เพราะผู้ขับขี่รถใหญ่เหล่านี้อาจไม่เห็นคุณ
  2. ใช้สัญญาณไฟทุกครั้งที่เปลี่ยนเลน: การส่งสัญญาณล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนเลนช่วยให้รถคันอื่นเตรียมพร้อมและปรับตัวต่อการเคลื่อนไหวของคุณ
  3. ระวังเป็นพิเศษเมื่อขับขี่ในช่วงกลางคืนหรือฝนตก: การมองเห็นลดลงในสถานการณ์ที่มีแสงน้อยหรือฝนตก ทำให้จุดอับระดับการมองเห็นมีความอันตรายยิ่งขึ้น ควรขับช้าและเพิ่มความระมัดระวัง

จุดอับระดับการมองเห็นระหว่างขับรถอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วมันสามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้หากไม่ใส่ใจ ด้วยการปรับกระจกมองข้างอย่างถูกต้อง การใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือ และการมีสติในการขับขี่ คุณจะสามารถลดความเสี่ยงจากจุดอับสายตาและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยบนท้องถนน

Barif Ibrahim