จัดว่าเป็นที่น่าติดตามและเรียกความสนใจให้กับเหล่าผู้ใช้งานจักรยานยนต์เป้นอย่างมาก เนื่องจากทางแบรนด์ดังอย่าง Honda ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการภายในงานแถลงนโยบายระดับโลกกันถึงสองประเด็นหลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต
ทำให้เห็นว่าทาง Honda นั้นมีเป้าหมายใหญ่ในการพัฒนารถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน รวมถึงสร้างกลยุทธ์เพื่อที่จะลดการสูญเสียไม่ว่าจะชีวิตและทรัพย์สินบนยานพาหนะของทางบริษัทนั่นเอง ซึ่งกับบทความนี้เราจะไปติดตามกันซิว่าทางค่ายปีกนกรายใหญ่เจ้านี้มีแผนจะทำอะไรต่อไปในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้
Honda มาพร้อม 2 ประเด็นหลักๆ
จากที่ทางทีมงานสองล้อคลับได้ไปสรุปเนื้อหาจากงานแถลงการณ์ของทาง Honda ที่ผ่านมาก็ได้พบว่ามีประเด็นที่ทางแบรนด์พยามจะสื่ออยู่ 2 ประเด็นหลักๆ นั่นก็คือ
ประเด็นที่ 1 มุ่งพัฒนายานพาหนะพลังงานไฟฟ้า
ประเด็นแรกที่เราจะมาพูดถึงกันนั้นเป็นการกำหนดทิศทางในการมุ่งพัฒนาในส่วนของยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ ซึ่งในยุคนี้นั้นเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น รวมทั้งดูเหมือนว่าจะเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจมากกว่า ซึ่งทาง Honda เองก็ได้วางแผนขยับขยายยอดการขายของผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
โดยวางเป้าหมายในการจำหน่ายจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มี คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ ของยอดขายภายในปี 2030 และขยับขึ้นไปเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2035 และไปให้ถึงเป้าสูงสุดที่ 100 เปอร์เซ็น ภายในปี 2040 ทั้งนี้ก็หมายความได้ว่าหลังจากปี 2035 จากนี้นั้น อาจจะไม่มีผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปจากทาง Honda อีกแล้วก็เป็นได้!
เตรียมเผยโฉมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลใหม่!
และในอนาคตอันใกล้นี้ทางผู้ผลิตก็ได้เผย 4 โมเดลใหม่ของจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 โมเดลด้วยกันสำหรับปี 2024 นี้ ได้แก่
- โมเดลรถสกู๊ตเตอร์โดยมารูปโฉมที่สามารถเทียบได้กับรถในคลาส 50 CC และ 125 CC
- โมเดลมอเตอร์ไซค์ Street Naked
- โมเดลรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่ง ที่มีชื่อว่า FUN ซึ่งในขณะนี้ทางทีมงานก็ยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน
โดยทั้งสี่โมเดลที่ได้กล่าวมานี้นั้น จัดว่าเป็นส่วนที่พัฒนามาจากโมเดลปัจจุบันที่ทางแบรนด์ Honda ได้ทำการผลิตและจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็ได้แก่
- Honda PCX EV ที่หลายท่านรู้จักกันดี
- รถเชิงพาณิชย์อย่าง Benly e, Gyro e และ Gyro Canopy e
โดยทั้งหมดนี้จะใช้โครงสร้างชุดแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้ และได้พัฒนาร่วมกันกับอีก 3 แบรนด์จากญี่ปุ่น รวมทั้ง Piaggio และ KTM ของทางฝั่งยุโรปด้วย
ประเด็นที่ 2 การหลีกเลี่ยงความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุ
สำหรับประเด็นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเนื่องจากการแถลงนโยบายในที่ผ่านมาทำให้เข้าใจได้ว่าทาง Honda เองนั้น ก็มีความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียอันเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทั้งในส่วนของทรัพย์สินหรือชีวิตโดยมาจากผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ หลายๆท่านก็มักจะเห็นการรณรงค์ของแบรนด์ต่างๆอยู่บ่อยครั้ง
และอย่างยิ่งในบ้านเราก็มักจะมีแคมเปญเกี่ยวกับการรณรงค์เกี่ยวกับจิตสำนึกเรื่องอุบัติเหตุทุกช่วงเทศกาล แต่ในครั้งนี้ทาง Honda นั้นดูจะเอาจริงเอาจังมากขึ้นด้วยการพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาด้านระบบความปลอดภัยของยานพาหนะมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้มีการลงทุนในปรับปรุงรวมถึงค้นคว้าและวิจัยรวมทั้งเม็ดเงินทั้งหมดกว่า 5 ล้านล้านเยนโดยสามารถตีเป็นเงินไทยได้ราวๆ 1.46 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว เพื่อที่จะพัฒนาระบบ ADAS หรือ advanced driver assistance systems ที่มีอยู่บนยานพาหนะของทางแบรนด์ ทั้งหมดนี้มุ่งเน้นไปในปี 2030 ข้างหน้า ซึ่งยานพาหนะทุกคันและทุกรุ่นของค่ายปีกนกอย่าง Honda จะต้องมีระบบนี้เป็นมาตรฐานนั่นเอง
บทสรุป
อย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงเป้าหมายและแผนการที่น่าสนใจและน่าติดตาม มันหมายความไปถึงการปรับเปลี่ยนการใช้ยานพาหนะของผู้คนในอนาคตซึ่งปกติเคยคุ้นชินกับเครื่องยนต์สันดาป ปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าแทน ในข้อนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าสถานีชาร์จไฟฟ้าในบ้านเรานั้นมีเพียงพอที่จะรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้หรือไม่
อย่างไรก็ดีก็ยังมีเหล่าผู้ใช้งานอีกหลายท่านที่ยังคงชื่นชอบรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบเก่าอยู่อีกมากมาย ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอนาคตนั้นจะสามารถเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมได้หรือไม่! ทุกท่านสามารถติดตามการอัปเดตสาระดีๆแบบนี้ได้ทุกวันกับเว็บไซต์ songlorclub เพียงคลิกที่ลิงค์นี้เท่านั้น!