สำหรับวันหยุดที่กำลังจะถึงในเดือนหน้านี้ เหล่าไบค์เกอร์หรือผู้ที่มีใจรักในการขี่รถมอเตอร์ไซค์ จะต้องมีแผนออกทริปเที่ยวกับชาวแก๊งกันอย่างแน่นอน สำหรับบทความนี้ทางทีมงานสองล้อคลับเลยอยากจะแนะนำให้ลองปักหมุดออกไปเที่ยวกันแบบ One Day Trip ตามพิพิธภัณฑ์กันดูสักครั้ง ซึ่งถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์หลายคนอาจจะคิดว่าน่าเบื่อ อีกทั้งยังไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ไม่เลย อันที่จริงตัวพิพิธภัณฑ์มีหลายประเภทให้เลือกชม โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์เกาะรัตนโกสินทร์ที่มีการจัดแสดงภาพถ่าย รวบรวมผลงานศิลปะต่างๆ ให้ได้เรียนรู้ ที่สำคัญมีจุดเช็กอินถ่ายรูปสวยๆ ให้วัยรุ่นสายชิคได้อัปลงโซเชียลแบบไม่ซ้ำ ถ้าพร้อมแล้วขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจของท่านแล้วออกไปบิดกันเลยกับการท่องเที่ยว 3 พิพิธภัณฑ์เกาะรัตนโกสินทร์ แบบ One Day Trip จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลย
เที่ยวแบบ One Day Trip กับพิพิธภัณฑ์เกาะรัตนโกสินทร์
มิวเซียมสยาม
เปิตัวที่เที่ยวแบบ One Day Trip ที่เเรกกันกับพิพิธภัณฑ์ที่ มิวเซียมสยาม เนื่องจากที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งแรกภายใต้สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ที่มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการชมพิพิธภัณฑ์ให้กับคนรุ่นใหม่ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างสนุกสนานและสร้างสรรค์ มีนิทรรศการที่เล่าถึงความเป็นไทยหลากหลายมุมมองอย่าง “ถอดรหัสไทย” ที่เล่าเรื่องถึง 14 ห้องนิทรรศการด้วยกัน ถัดมาที่ชั้น 2 มีไฮไลท์ “นางกวักตัวใหญ่” สูงเกือบ 4 เมตร ชื่อว่า “แม่เอิบทรัพย์” ให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี สังคม การแต่งกาย อาหารการกินและสถาปัตยกรรมของไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ไม่ควรพลาดจุดเช็กอินและถ่ายรูปอย่าง “Wall Bearing” บันไดแบบโบราณที่นิยมในอิตาลี ส่วนโถงกลางของมิเซียมสยามที่ใครไปก็ต้องถ่ายรูปเช็กอิน เพราะเป็นบันไดที่ไม่มีคานและเสาตรงชานพักบันไดช่วยรับน้ำหนัก อาศัยแค่ลูกนอนยึดกับกำแพงเท่านั้นแต่ยังคงแข็งแรง เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูโดดเด่นและคลาสสิคเหนือกาลเวลาเหมาะสำหรับชาวสองล้อที่ต้องการท่อเที่ยวแบบ One Day Trip เดินทางไปกลับเเสนสะดวก
สำหรับท่านที่สนใจ
- วันเวลา เปิด-ปิด : วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชม อยู่ที่ 100 บาท
- นักเรียน นักศึกษาที่อายุมากกว่า 15 ปี อยู่ที่ 50 บาท
- ผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรี แต่ในกรณีที่พกบัตร Thailand Museum Pass สามารถเข้าชมฟรีได้เลย
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก
มาต่อกันกับพิพิธภัณฑ์ย่านกรุงเก่าแล้ว แนะนำให้ลองพามอเตอร์ไซค์คู่ใจขี่ไปเที่ยวแบบ One Day Trip ที่พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เขตบางรัก ด้วยความที่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์เกาะรัตนโกสินทร์ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางถนนเจริญกรุงในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นขนาดเล็กที่เหล่าไบค์เกอร์สายชิคต้องลองมาสักครั้ง ซึ่งพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกนี้สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจของอาจารย์วราพร สุรวดี ต้องการบอกเล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบางกอกที่มีฐานะปานกลางในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านอาคารและวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้งานได้จริง มีให้เราได้เรียนรู้ทั้งหมด 4 อาคาร ด้วยกัน
- อาคาร 1 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ที่มองแล้วรู้เลยว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก และเป็นบ้านที่ครอบครัวอาจารย์วราพรเคยอยู่อาศัยในอดีต ภายในมีห้องรับแขก, ห้องอาหาร, ห้องหนังสือ, โถงชั้นล่าง, ห้องแต่งตัวแบบยุโรป, ห้องนอนคุณยายอิน และห้องนอนใหญ่ ที่มีข้าวของที่เคยผ่านการใช้งานจริงจัดแสดงอยู่และยังคงถูกเก็บรักษาอย่างดีให้อยู่ในสภาพเดิม
- อาคารที่ 2 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น เหมือนกับอาคาร 1 ที่สร้างขึ้นเพื่อเปิดเป็นคลินิกให้กับคุณหมอฟรานซิส คริสเตียน ชั้นล่างจึงมีข้าวของเครื่องใช้ประดับตกแต่งตามมุมต่างๆ ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอน แต่น่าเสียดายที่คุณหมอฟรานซิสได้เสียชีวิตลงก่อนที่อาคารนี้จะสร้างเสร็จ อาจารย์วราพรจึงตั้งใจนำของทุกอย่างมาจัดแสดงและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้าชม ซึ่งแต่เดิมนั้นคลินิกของคุณหมอฟรานซิสตั้งอยู่ที่ทุ่งมหาเมฆ ซอยงามดูพลี
- อาคารที่ 3 ยังเป็นอาคาร 2 ชั้น ที่ชั้นล่างถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ทั้งเครื่องครัว เครื่องเขียน ฯลฯ ส่วนชั้นบนจะฉายภาพรวมของกรุงเทพมหานครในหลายแง่มุม ทั้งลักษณะทางกายภาพเขตบางรัก, สายสัมพันธ์ไทย – ตะวันตก, ชุมชนนานาชาติ, คนเด่นบางรัก, อิทธิพลชาติตะวันตกต่อประเทศไทย, บทบาทของชุมชนตะวันตกที่มีต่อการปฏิรูปประเทศ, สถานที่สำคัญของบางรัก, แรกมีในสยาม แรกมีในบางรัก เป็นต้น เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้มาศึกษาประวัติศาสตร์และสัมผัสกลิ่นอายอารยธรรมของคนยุคก่อนได้อย่างถ่องแท้
- อาคารที่ 4 อาคารหลังสุดท้ายนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลาริมน้ำ มีการดัดแปลงตึกเป็นสำนักงานห้องสมุดอาจารย์วราพร ที่รวบรวมหนังสือ รูปภาพที่บอกเล่าวิถีชีวิตของคนยุคนั้นอีกด้วย
สำหรับท่านที่สนใจ
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกเเห่งนี้เปิดให้บริการ ตั้งแแต่วันอังคาร ถึง อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 โดยปิดวันจันทร์ เปิดให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์บ้านหมอหวาน
ปิดท้ายการป่องเที่ยวสไตล์ One Day Trip พิพิธภัณฑ์บ้านหมอหวาน หรือ อาคารบำรุงชาติสาสนายาไทย หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่เราไม่อยากให้พลาด และยังคงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะปัจจุบันอาคารบำรุงชาติสาสนายาไทยยังทำหน้าที่เป็นร้านขายยาและสำนักงานของหมอหวาน รวมถึงด้านหลังยังเป็นที่อยู่อาศัยของคนในครอบครัวหมอหวานด้วย โดยตัวพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารเก่าแก่สไตล์โคโลเนียลที่เป็นมรดกจาก หมอหวาน รอดม่วง แพทย์แผนโบราณในสมัย ร. 5 – 8 และได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2557 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
ชั้นล่างเป็นร้านขายยาไทยที่ยังคงรูปแบบและประโยชน์ใช้สอยเหมือนตอนที่หมอหวานยังมีชีวิตอยู่ มีพื้นที่จัดแสดงอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้มากมาย ทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์แผนไทยและแผนตะวันตก เช่น เครื่องบดยา หินบดยา รางปั้นเม็ดยา โกร่งบดยา ฯลฯ สำหรับยาไทย ส่วนแผนตะวันตก มีหูฟังเสียงหัวใจ บีกเกอร์ หลอดทดลอง เครื่องสกัดยา
การมายังที่แห่งนี้นอกจากได้เรียนรู้เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่หมอสมัยก่อนใช้รักษาคนไข้แล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือยาหอมโบราณสุดล้ำค่าที่มีอายุเกินร้อยปีทั้ง 4 ตำรับของหมอหวาน ที่ถูกฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมสร้างการรับรู้ใหม่ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ “ยาหอม” ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ถึงภูมิปัญญาของคนยุคก่อนที่หมอหวานตั้งใจมอบให้เป็นมรดกของชาติ ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเที่ยวเช็กอิน เรียนรู้ความเป็นมาเป็นไปที่ดีงามแล้ว ขากลับอย่าลืมอุดหนุนยาหอมหรือยาไทยต้นตำรับอื่นๆ ติดไม้ติดมือเป็นของฝากไปให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่คุณรักอีกด้วย
สำหรับท่านที่สนใจ
- วันเวลา เปิด-ปิด : วันเสาร์ถึงอาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชมเเต่อย่างใดเหมาะสำหรับไบค์เกอร์ที่ต้องการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip อย่างยิ่ง
บทสรุป
เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 พิพิธภัณฑ์เกาะรัตนโกสินทร์ที่ทางสองล้อคลับนำมาฝากกับชาวไบค์เกอร์ที่ต้องการเที่ยวแบบ One Day Trip บอกเลยต้องลองไปเช็กอินสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะแต่ละที่ก็มีความสวยงามและที่มาต่างกัน นอกจากได้เรียนรู้วิถีชีวิตและประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เป็นเหมือนมรดกของชาติแล้ว ยังได้ชื่นชมและถ่ายรูปสถาปัตยกรรมสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือจะอัปลงโซเชียลก็รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน การเดินทางก็สะดวกสบาย ขี่รถมอเตอร์ไซค์วันเดียวเที่ยวได้ครบทั้ง 3 ที่อีกด้วย เเละเช่นเคยทุกท่านจะไม่พลาดกับข้อมูลดีๆเกี่ยวกับชาวสองล้อได้ที่เว็บไซต์ songlorclub คลิกเลย!
- เปิดตัว Suzuki JIMNY Offroad Edition รุ่นปี 2025 ใหม่ รุ่นพิเศษตกแต่งสไตล์ออฟโรด - December 4, 2024
- รีวิว Hyundai PALISADE 2025 พร้อมห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง - December 2, 2024
- รวม 7 ที่จับมือถือ มอเตอร์ไซค์ แบบไหนดี ไม่หลุด ไม่ร่วง ใช้งานได้นาน - November 26, 2024