หากพูดถึงรถที่มีประวัติการใช้งานมาอย่างยาวนาน มอเตอร์ไซค์สกู๊ดเตอร์ก็เป็นอีกแนวที่มีที่มาและที่ไปที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน และรถที่เราจะนำมารีวิวในบทความนี้นั้นก็คือ Lambretta V200 Special นั่นเอง จัดว่าเป็นสกู๊ดเตอร์ที่มีประวัติลึกมาก ๆ ขึ้นแท่นความคลาสสิคที่ใครก็อยากจะครอบครอง ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาลี ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรา ถ้าใครเป็นคนรักจักรยานยนต์ประเภทนี้จะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน แค่ถ้าใครยังไม่เคยได้ยินหรือพบเห็นมาก่อนนั้นผู้เขียนก็จะนำข้อมูลโดยรวมของตัวรถมาเล่าสู่กันฟัง ให้ไบค์เกอร์ใช้ประกอบการตัดสินใจในการซื้อรถคู่ใจสักคันหนึ่ง
สิ่งแรกที่จะนำมาพูดคุยกันนั่นก็คือการออกแบบเจ้า V200 Special นั้นยังคงไว้ซึ่งสไตล์ Neo Classic ซึ่งถึงแม้ระบบของรถนั้นจะพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยใหม่แต่ การออกแบบนั้นยังคงดึงมนเสน่ ของแลมเบรตต้า ในยุค 60 มาประยุกต์ให้เข้ากับยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แล้วด้วยทรวดทรงแบบนี้นั้นผู้เขียนมีความคิดเห็นว่าเป็นทรงที่ขับขี่ง่ายที่สุดแล้วในตละกูล มอเตอร์ไซค์ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็สามารถที่จะขับขี่ได้ ก็ได้มีการทดสอบรีวิวมากมายเกี่ยวกับการขับขี่ อ่านบทความนี้จบก็สามารถที่จะเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้แต่คิดว่าหากทุกท่านอ่านบทความนี้จนจบก็สามารถที่จะรู้ลายละเอียดของตัวรถได้ชัดเจนมากขึ้น
Lambretta V200 Special ข้อมูลและการออกแบบ
แม้ว่าดีไซน์จะเป็นการออกแบบโมเดลรถให้คงความคลาสสิคแบบฉบับเดิมเอาไว้แต่ อุปกรณ์และอะไหล่นั้นมีการพัฒนาไปอย่างมาก ในยุคนี้นี้นั้น V200 Special ใช้เหล็กท่อ steel tube ในการนำมาประกอบเป็นเฟรม ซึ่งความแข็งแรงทนทานนั้นสามารถไว้ใจได้เลย น้ำหนักของตัวรถก็ไม่ได้หนักจนเกินไปอยู่ที่ 134 กิโลกรัม เท่านั้นก็จัดว่าเบากว่ามอเตอร์ไซค์คลาสสิครุ่นอื่นๆอยู่เล็กน้อย และอย่างที่บอกว่าแม้จะเป็น สกู๊ดเตอร์ที่เน้นความคลาสสิคเป็นหลักแต่ก็ได้สอดแทรกการใช้งานแบบสมัยใหม่ลงไปด้วย
สังเกตจากช่องกุญแจถ้ามองแบบผิวเผินนั้นก็อาจจะดูไม่มีอะไร แต่ทางค่ายนั้นก็ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ด้วยสวิตซ์ OFF-RUN ที่หน้าเก๊ะพร้อมมีที่ชาร์ทแบบ PORT USB ติดมาให้อีกด้วย ไฟหน้านั้นทันสมัยมากขึ้นด้วยไฟแบบ LED ที่มีการคาดด้วยไฟ Daylight ประทับตรา Lambretta ชัดเจนซึ่งตรงจุดนี้นั้นจะให้ความโมเดิร์นขึ้นมาอีกหน่อย ไม่ต้องกลัวเลยว่าระหว่างขับตอนกลางคืนนั้นจะมองทางไม่ชัดเจนต้องบอกกันก่อนเลยว่าไฟเจ้า V200 Special นั้นมันช่างจ้าซะเหลือเกินมากับ ระบบส่องสว่าง FULL LED รอบคันเอาให้แสบหูแสบตากันไปเลย
ทางค่ายนั้นยังใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยอย่างเสียงตอนเปิดปิดไฟเลี้ยว ที่จะมีเสียงเตือน สั้นๆ ซึ่งตรงจุดนี้นั้นจะช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ลืมที่จะปิดไฟเลี้ยวอย่างแน่นอน สำหรับมอเตอร์ไซค์ยุคใหม่นั้น หน้าปัดเรือนไมล์ที่แสดงค่า Volt แบตเตอรี่ ก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกันเพราะถ้าหาก กำลังแบตไม่พอสตาร์ทขึ้นมาเมื่อไหร่หละก็ งานงอกแน่ๆ และเมื่อพูดถึงการใช้งานของสกู๊ดเตอร์นั้นก็ต้องคิดถึงการขนของหรือสัมภาระต่างๆ U-Box ของ Lambretta ค่อนข้างที่จะกว้างมากๆสามารถใส่หมวกเต็มใบได้หนึ่งใบเต็มๆ
แถมยังออกแบบมาให้มีการยกตัวหลบหัวฉีด เผื่อไปเจอทางที่สภาพถนนไม่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่ ยกตัวอย่างถนนในบ้านเราที่ค่อนข้างจะรู้จักกันเป็นอย่างดีว่ามีสรรพพคุณอย่างไร รถพร้อมจะยุบตัวได้ทุกเวลา แต่ไม่ต้องกังวลหากขับ V200 Special ไม่กระแทกหัวฉีดจนชำรุดเสียหายแน่นอน และถ้าหากใครสนใจที่เจ้าสกู๊ดเตอร์คันนี้นั้นราคาตอนนี้อยู่ที่ 99,500 ก็ถือว่าสามารถจับต้องได้ไม่ยากเย็นนัก เดี๋ยวนี้ตามศูนย์รถมอเตอร์ไซค์ก็จัดโปรอยู่บ่อยครั้งถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ข้อมูลเชิงเทคนิค V200 Special
เครื่องยนต์นั้นจัดว่าเป็นแบบ สูบเดี่ยว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาดเครื่องยนต์นั้นอยู่ที่ 168.9 ซีซี ก็จัดว่าคุ้มมากกับการใช้งานในบ้านเรา กำลังเครื่องยนต์นั้นจัดว่าไม่เบาเลยอยู่ที่ 13 แรงม้า (8.9 กิโลวัตต์) ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.5 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ระบบสตาร์ทให้ความร่วมสมัยเข้าไปด้วย สตาร์ทไฟฟ้า ระบบเกียร์ สายพาน CVT ขนาดรถ 1,890 มม. x 690 มม. x 1,115 มม พร้อมจุน้ำมันที่ 6 ลิตร เดินทางไกลหายห่วงแน่นอนกับ V200 Special หากสนใจบทความรีวิวรถมอไซค์เพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ songlorclub
- Harley-Davidson Nightster 440 ราคาแสนต้นๆ ครุยเซอร์เล็ก ลูกครึ่งอินเดีย - September 10, 2024
- รีวิว สกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่จากฝั่งจีน Lingchen Kloninga 500 - September 20, 2023
- มาเเล้ว! กับบิ๊กสกู๊ตเตอร์ GT ตัวแรง Honda Forza 750 เวอร์ชั่น 2024 - September 13, 2023