สำหรับบทความนี้ทางทีมงานสองล้อคลับขอนำทุกท่านไปพบกับมอเตอร์ไซค์คลาสสิคอีกรุ่นหนึ่งที่พวกเชื่อว่าเหล่าไบค์เกอร์ จะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีในบ้านเรา กับมอเตอร์ไซค์จากแบรนด์ ฮอนด้า กับ honda dream 125 รุ่นปี 2023 เนื่องจากนี่คือโมเดลที่แจ้งเกิดให้กับรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ และตีตลาดได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รุ่น ฮอนด้า Wave แทน
ซึ่งทางทีมงานก็ได้รวบรวมข้อมูลมารีวิวให้กับทุกท่านแล้วมาดูกันซิว่าเหตุใด honda dream 125 ยังคงเลือกใช้โมเดลเดิมที่ผลิตและจำหน่ายมานานกว่า 40 ปี จนได้มาถึงกับเวอร์ชันล่าสุดนี้ และมาดูกันกับการออกแบบดีไซน์รวมถึงเครื่องยนต์และการใช้งานของรุ่นนี้จะถูกอกถูกใจคุณผู้อ่านหรือไม่ไปดูกันเลย
การออกแบบรูปโฉม honda dream 125
สำหรับโมเดล honda dream 125 ในเวอร์ชั่นปี 2023 ก็ได้มีการเปิดตัวล่าสุดไปแล้วที่ประเทศกัมพูชาเป็นที่เรียบร้อย โดยสำหรับรุ่นนี้นั้น มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น และยังถือเป็นครั้งแรกที่ซีรีส์ของรุ่น ดรีม จะได้รับชุดไฟ LED รอบคัน ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ของกรอบไฟและชุดโคมจากรุ่นก่อนหน้า ที่ทำให้ดีไซน์โดยรวมของตัวรถไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากเราสังเกตดูรวมๆแล้ว การออกแบบของรุ่นนี้ ยังคงให้กลิ่นอายของ ดรีม 110 ที่ได้เคยเข้ามาตีตลาดในบ้านเราอยู่หลายจุดเลยทีเดียว
โดยสำหรับ honda dream 125 ในเวอร์ชั่นปี 2023 การออกแบบโมเดลจะมีการเปลี่ยนชุดไฟเป็น LED รอบคันเท่านั้น แต่ในส่วนของการอัพเกรดเครื่องยนต์ ในรุ่นนี้จะใช้เป็นเครื่องยนต์ OHC 1 ลูกสูบ 123.94 ซีซี ขนาดกระบอกสูบ 50 มิลลิเมตร ช่วงชัก 63 มิลลิเมตร ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ในรุ่นนี้ ได้รับการออกแบบ การจ่ายน้ำมันด้วยระบบเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดแทนที่ระบบจ่ายน้ำมันรุ่นก่อนหน้าที่ทางแบรีนด์ยังคงใช้งานระบบคาร์บูเรเตอร์อยู่ ตัวรถจะยังใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 10.0:1 ซึ่งจะสูงกว่า Wave 125 ที่ทำตลาดในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 9.3:1 ซึ่งหมายถึงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง น่าจะดีกว่า Wave 125 ไปเล็กน้อย
รายละเอียดด้านเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ OHC 1 สูบ ขนาด 123.94 ซีซี 1 สูบ
- ระบายความร้อนด้วยอากาศ
- ขนาดกระบอกสูบ 50 x 63 มิลลิเมตร
- อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1
- ระบบเกียร์ 4 สปีด
- น้ำหนัก 98 กิโลกรัม
- เบาะนั่งสูง 751 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 4 ลิตร
- ขนาดยางหน้า 60/100-17 นิ้ว
- ล้อหลัง 70/100-17 นิ้ว
สำหรับท่านที่สนใจ
ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่ทางผู้ผลิตเอง ไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงค่าตัวเลขกำลังและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของตัวรถ ทั้งยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนเรื่องของสีสันนั้น ก็ไม่มีการอัพเดตจากรุ่นก่อนหน้า โดยจะใช้สีดำ สีขาว และสีแดงเลือดหมู เป็นสีในการจำหน่ายต่อไป และคาดว่าจะมีการเปิดราคาจำหน่ายในช่วงต้นเดือนมกราคมที่จะถึงนี้และเช่นเคยหากท่านผู้อ่านท่านใดต้องการอ่านสาระดีๆเกี่ยวกับชาวส้องล้อหรือติดตามการรีวิวรถเพิ่มเติมสามารถคลิกได้ที่ลิงค์ songlorclub นี้คลิกเลย!