หากพูดถึงค่ายรถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตรถแนวคลาสสิคที่เห็นกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองหลายๆคนจะต้องนึกถึง สตาร์เลียน กันอย่างแน่นอน ด้วยความที่เป็นค่ายที่ผลิตจักรยานยนต์ขนาดกลาง ซึ่งราคาก็ไม่ได้แรงมากนัก ไบค์เกอร์ทั่วไปสามารถจับต้องได้ไม่ยาก จัดว่าเป็นเจ้าแรกๆที่กล้าตีตลาดคลาสสิค และประสบความสำเร็จอีกด้วย และล่าสุดก็ยังเป็นเจ้าล่าสุดที่เปิดตัวมากับ รถสไตล์ครูสเซอร์-ช็อปเปอร์ หรือโอลสคูลขนานแท้ อย่าง stallion iron one ที่รูปทรงนั้นจัดว่างดงามตามแบบฉบับ ช็อปเปอร์ขนานแท้ ตามนิยามของอเมริกันชน
และที่ทำให้ยิ่งน่าสนใจในรถรุ่นนี้เข้าไปอีกนั่นก็คือ ราคาค่าตัวนั้นไม่ได้แพงเหมือนรถคลาสสิคค่ายอื่น ณ ตอนนี้ตั้งอยู่ที่เพียง 88,000 บาทเท่านั้น ทำให้ผู้ใดที่อยากได้มอเตอร์ไซค์โอลสคูลมาขี่เท่ๆแล้วนั้นเจ้ารถตันนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว สำหรับรถคันแรกถ้าจะเริ่มจากเจ้าคันนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย ซึ่งจะได้อารมการขับขี่ที่เต็มรูปแบบอย่างแน่นอน แถมตกแต่งต่อเติมก็ง่ายเพราะแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยก็สวยอยู่แล้ว
ก่อนจะมาเป็น stallion iron one ที่ทุกคนเห็นกันทุกวันนี้
ก่อนจะได้รูปทรงที่ย้อนยุคและงดงามลงตัวได้อย่างที่เห็นนี้นั้นทางค่ายสตาร์เลียนได้ร่วมมือกับ สำนักแต่งรถชื่อดังของอเมริกาอย่าง Cleveland Cycle Werks จนได้ให้กำเนิด มอเตอร์ไซค์แนวช็อปเปอร์โอลสคูลที่เป็นแหล่งแรกที่ตีตลาดในไทย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักขับหลากหลายท่าน สมเป็นรถในสไตล์อเมริกาที่แท้จริง
โดยได้ดีไซด์อออกมาแบบ Low & Long เต็มรูปแบบหรืออธิบายได้ง่ายๆว่า ช่วงเบาะจะต่ำส่วนช่วงหน้าจะสูง นั่นเอง และในเรื่องของการออกแบบนี่แหละที่ทำให้รุ่นนี้แตกต่างกับ ครูสเซอร์ เจ้าอื่นๆ เพราะไม่ค่อยมีค่ายใหนกล้าผลิตรถสไตล์นี้ออกมาตีตลาดในประเทศไทยมากนัก เพราะผู้เขียนกล้าพูดว่าความนิยมในมอเตอร์ไซค์คลาสสิคในไทยนั้นยังเป็นความนิยมเฉพาะกลุ่มอยู่แต่ก็ยังมีกลุ่มและคลับที่ชื่นชอบรถสไตล์นี้ให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ
คุณจะได้อะไรบ้างเมื่อตัดสินใจออกเจ้าคันนี้
สำหรับจักรยานยนต์ ที่จัดอยู่ในหมวดคลาสสิคแล้วนั้นขาดไม่ได้เลยกับ ไฟหน้าทรงกลม ซึ่งทางค่ายก็ได้เก็บรายละเอียดรอบทั้งคันเพื่อให้ได้โมเดลที่ถูกใจคนรัก โอลสคูลมากที่สุด มาพร้อมกับหน้าปัดเรือนไมล์แบบอนาล็อก ที่จะแสดงข้อมูลต่างๆในยามขับขี่ ทั้งมาตรวัดความเร็ว และ ระยะทาง และถึงแม้สำหรับรุ่นนี้นั้นจะไม่ได้ให้มาตรวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงมาแต่ก็มีสิ่งที่สามารถทดแทนกันได้นั่นก็คือ ไฟแจ้งเตือนระดับน้ำมันที่ได้ใส่ลงมาด้วย
สำหรับ จะใช้เป็น โช้คอัพคู่ เทเลสโคปิก คงความเก๋าด้วยล้อแบบซี่ลวดถักขนาดหน้า 21 หลัง 18 นิ้ว ให้อารมย้อนยุคแบบอย่างมาก ส่วนในเรื่องเบรกจะใช้เป็น ดิสก์เบรกเดี่ยว กันสะเทือนในส่วนด้านหลัง จะใช้เป็นโช็คอัพคู่ มาพร้อมกับ คอยล์สปริง ที่อยู่ใต้เบาะ
ในส่วนของชุดเครื่องยนต์
ถึงราคาของตัวรถจะไม่แรง แต่เครื่องนั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ซึ่งจะมาพร้อม 1 สูบ 4 จังหวะ ใช้การระบายความร้อนโดยใช้อากาศ ตามากับขนาดเครื่องยนต์ถึง 229 ซีซี และด้วยความที่เป้นมอเตอร์ไซค์สายคลาสสิคจะขาดไม่ได้เลยกับระบบ kick start หรือการสตาร์ทเท้า ซึ่งจะสังเกตุได้ว่าจักรยานตร์ยุคใหม่เริ่มตัดลูกเล่นนี้ออกไปมากแล้ว เหลือให้เห็นเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ระบบจ่ายเชื้อเพลิงนั้นคุ้มค่าทุกการเดินทางแน่นอนด้วย ระบบหัวฉีด ที่จะช่วยคุณประหยัดค่าน้ำมันได้มากเลยทีเดียว สำหรับในรุ่น iron one จะมีอยู่ด้วยกันอยู่ทั้งหมด 5 เกียร์ น้ำหนักรถของรถนั้นด้วยเป็นรถขนาดกลางทำให้ไม่ได้หนักจนเกินไป นักขับที่ตัวเล็กหรือผู้หญิงก็สามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัว
แต่จาการรีวิวของผู้ใช้งานหลายๆท่านนั้นเห็นตรงกันว่ายังไม่เหมาะที่จะเอามาใช้เป็นรถหลักเนื่องจาก ด้วยปัญหาต่างๆนาๆแต่สำหรับผู้เขียนคิดว่าถ้าใจชอบจริงๆก็จัดเลยเพราะรถแต่ละคันย่อมมีปัญหาประจำรุ่นหากรักในมอเตอร์ไซค์คลาสสิคจริงๆแล้วละก็จงคำนึงไว้ว่าอยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝนและไม่ว่าเส้นทางใหนซีซีไม่ใช่ปัญหาอยู่ที่ใจล้วนๆ หากสนใจในจักรยานยนต์คลาสสิคสามารถหาดูเพิ่มเติมได้ที่ songlorclub คลิกเลย
- Harley-Davidson Nightster 440 ราคาแสนต้นๆ ครุยเซอร์เล็ก ลูกครึ่งอินเดีย - September 10, 2024
- รีวิว สกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่จากฝั่งจีน Lingchen Kloninga 500 - September 20, 2023
- มาเเล้ว! กับบิ๊กสกู๊ตเตอร์ GT ตัวแรง Honda Forza 750 เวอร์ชั่น 2024 - September 13, 2023