วันนี้จะขอมารีวิวกับมอเตอร์ไซค์ซึ่งส่งต่อความคลาสสิกมาตั้งแต่ 1950 อย่าง Royal Enfield Classic 350 ซึ่งเนื่องจากในโอกาสครบวาระ 120 ปี ของค่ายจักรยานยนต์ชั้นนำอย่าง รอยัล เอ็นฟีลด์ นั้นก็ได้จับรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่เป้นตำนาน ของแบรนนี้เลยก็ว่าได้มาพัฒนาใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์นักขับในยุคปัจจุบัน ที่ดูจะมีความหลากหลายและมีสไตล์ของตัวเองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จาการหยิบรถรุ่นเก่าในสมัยสงครามโลกมาพัฒนาก็ได้ออกมาเป็นตัวออลนิว ที่พวกเราเห็นกันซึ่งก่อนที่จะไปชมรถกับทางค่าย มารู้ประวัติคร่าว ๆ ของค่าย รอยัล เอนฟิลด์ กันซกนิดนึง
Royal Enfield Classic 350 ขี่ง่าย ขับสนุก
สำหรับค่ายนี้ต้องขอบอกเลยว่าเป็นค่ายที่มีสายการผลิตมายาวนานมาก ๆ จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นที่ โรงงานเล็ก ๆ ชื่อว่า เรดดิชย์ ในสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2444 ซึ่งถ้านึกถึงมอเตอร์ไซค์คลาสิกขนานแท้ซักคันก็ต้องนึกถึงแบรนด์ รอยัล กันเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ซึ่งขึ้นชื่อมาก ๆ ไม่ว่าเส้นทางจะโหดหรือกันดารขนาดใหน บอกเลยว่า Royal Enfield Classic 350 2022 ไม่มีทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะทางค่ายนี้นั้นมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะสร้างตำนานของการขับขี่ โดยดีไซน์ ของตัวรถนั้นแม้จะดูเรียบง่ายแต่กลับดูงดงามเหนือกาลเวลาจริง ๆ
Royal Enfield Classic 350 ดีไซน์ย้อนยุคจากสมัยสงครามโลก
ขึ้นชื่อว่าความคลาสสิก ก็หมายถึงมันจะต้องโดดเด่นเหนือกาลเวลาอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงมอเตอร์ไซค์แบรนรอยัล แล้วนั้นคงต้องมองย้อนกลับไปในปี 1948 ซึ่งค่ายนี้ถือเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ผลิตรถที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบสวิงอาร์มในรถ ถ้ามองดูในยุคนั้นก็ถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ล้ำยุคอีกคันหนึ่งเลย สำหรับตัว รอยัล โมเดล G2 ซึ่งความสวยงามนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะถ้าในสมัยนี้ใครมีรถยี่ห้อนี้สะสมบอกเลยว่าไม่ธรรมดาแล้ว ทั้งในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่นั้นก็บอกเลยว่าวางใจได้ รวมถึงรูปลักษณ์ที่ดูเท่สดุดตาอย่างมาก ในรุ่นของโมเดล G2 นั้นจึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการผลิตรถรุ่น Classic 500 และ Royal Enfield Classic 350 ออกมาจนเป็นที่นิยม อย่างมากในช่วงปี ค.ศ. 2008
และเมื่อได้เปิดตัวรุ่น Classic ออกมาแล้วนั้น ถือได้ว่าเหมือนกับการคืนชีพค่ายรอยัลขึ้นมาใหม่ จนมาถึงยุคของ Royal Enfield Classic 350 พร้อมแล้วหรือยังที่เป็นส่วนหนึ่งกับตำนานบทเก่าแต่เล่าใหม่ของสุดยอดมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแบรนด์นี้ ซึงปัจจุบันผู้ผลิตแบรนนี้นั้นถือว่าเป็นผู้ให้นิยามใหม่กับมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 3 ล้านคัน รุ่น Classic นี้ได้ทางอย่าเต็มรฟผสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ผู้ผลิตเป็นอย่างมาก และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น สำหรัยรถรุ่นนี้นั้นกาลออกแบบก็อย่างที่หลายท่านได้เห็นว่าดีไซน์เหนือกาลเวลาจริงๆ เพื่อที่จะรักษารูปลักษณ์ย้อนยุคไว้ให้ได้ครบทุกชิ้นส่วน แต่การขับขี่นี้นบอกเลยว่านุ่มสบายไม่แพ้รถยุคใหม่ๆอย่างแน่นอน Royal Enfield Classic 350 2022 นั้นถูกออกแบบและพัฒนาโดย ทีมงานระดับหัวกะทิของ ที่ศูนย์เทคโนโลยีล้ำสมัยของ รอยัล เอ็นฟีลด์ ซึ่งมีด้วยกันสองแห่งคือที่ ประเทศอินเดีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งทางผู้ขับขี่จะรู้สึกถึงความง่ายและสดวกบายทุกเส้นทุกเส้นทางอย่างมีระดับ
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ รอยัล เอนฟิลด์
Royal Enfield Classic 350 ใช้เครื่องยนต์ 1 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความกว้างกระบอกสูงบ x ช่วงชัก 72.0 x 85.8 มม. ใช้การขับเคลื่อนแบบ โซ่ พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 20.2 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุดนั้นไปได้ถึง 27 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ / นาที เฟรมนั้นจะเป็นแบบเปลคู่ โช๊คอัพเทเลสโกปิค 41 มม. ระยะยุบ 130 มม. โช๊คคู่ปรับพรีโหลดได้ 6 ระดับ
ตามมาด้วยดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 300 มม. ปั้มเบรค 2 พอต พร้อม ABS มั่นใจทุกการเบรคอย่างแน่นอนเพราะเป็นจุดที่สำคัญที่สุดเป็นส่วนที่เซฟตัวผู้ขับขี่ในการหยุดรถทางวิศวะกรเลยออกแบบมาอย่างดี ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร.)13 ลิตร ทำให้การออกเดินทางของคุณสามารถไปได้ไกลกว่าเดิม ซึ่งทางศูนย์นั้นได้มีการทดลอง จัดทริปขับขี่จากกรุงเทพมหานครไปจังหวัจพระนครศรีอยุธยา ระยะทางทั้งหมด 200 กิโลเมตรโดยใช้ความเร็วยืนพื้นราวๆ 90-110 บอกเลยว่าสบายมาก สำหรับเจ้า Royal Enfield Classic350 คันนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : รีวิวรถ yamaha xsr155 ที่คุณไม่ควรพลาด