สำหรับ ยาง รถยนต์หากท่านใช้งานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดการเสื่อมสภาพหรือชำรุดเสียหาย แต่ไม่ว่าจะผ่านการใช้งานมามากหนักหนาขนาดไหนก็ตาม ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่บอกได้ว่า ยาง ของเราเสื่อมสภาพแล้วนั่นก็คือ การแตกลายงา นั่นเอง ทุกท่านรู้กันหรือไม่ว่ารอยนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ควรรีบเปลี่ยน ยาง เลยหรือเปล่าวันนี้ทางเว็บสองล้อคลับ ได้รวบรวมข้อมูลมาอธิบายกับทุกท่านแล้ว
มาทำความรู้จักกับ ยาง แตกลายงา
ในส่วนของ ยาง ที่แตกลายงานั้นจะมีรอยแตกเล็กๆที่บริเวณหน้าและแก้มของ ยาง อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกประเภท ไม่เว้นว่าจะเป็นรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ไปจนถึงรถบรรทุก โดยปกติแล้วส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับ ยาง ที่ผ่านใช้งานมายาวนานหลายปี หรือกรณีที่ผู้ใช้งานชอบจอดรถไว้กลางแดดที่มีความร้อนแผดเผาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
ปัญหา ยาง แตกลายงาเกิดขึ้นได้อย่างไร
การที่ ยาง ของเรานั้นเกิดการแตกลายงาขึ้นมา อาจจจะมาจากหลายสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่น ความร้อนของแสงแดด ด้วยความที่ความร้อนจากแสงอาทิตย์แผดเผาพื้นคอนกรีตจนมีอุณหภูมิสูง ทำให้สารเคมีที่อยู่ภายในเนื้อยางเกิดการเสื่อมสภาพ ยางแห้งและแข็ง ไม่นุ่มเหมือนกับที่ได้มาตอนแรก ท้ายที่สุดก็จะรอยแตกขนาดเล็กจะเพิ่มทั่วทั้งหน้ายางไปจนถึงแก้ม ยาง
ถึงเรานั้นจะมั่นใจว่าถูกจอดไว้ในที่ร่ม แต่ด้วยความร้อนของอากาศในฤดูนี้ก็ล้วนส่งผลให้เกิดการแตกลายงาได้เช่นกัน บางครั้งอาจจะขึ้นช้ากว่ากลุ่มที่จอดทิ้งไว้กลางแดดเป็นประจำนั่นเอง
หากเกิดปัญหา ยาง แตกลายงา ควรเปลี่ยนทันทีเลยหรือเปล่า
สำหรับ ยาง ที่มีรอยแตกลายงา สามารถแยกออกมาเป็นรูปแบบที่อันตรายและไม่เป็นอันตราย ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของรอยนั้นๆ หากพบว่าเป็นรอยแตกเพียงบริเวณผิวด้านนอก ยาง ไม่ได้มีความลึกอะไรมากมายยังถือว่าไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ถ้าหากยังพบว่ามีรอยแตกลึกจนสามารถเห็นโครงสร้างที่อยู่ภายใน ในส่วนนี้นี้ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก
3 ปัจจัย ที่ควรนำรถไปเปลี่ยน ยาง
ปัจจัยที่ 1. ควรตรวจเช็คดูทุกครั้งว่าความลึกของการรอยแตกลายงามีความลึกขนาดไหน ถ้าสังเกตุเห็นว่าเป็นรอยลึกลงไปจนเห็นโครงสร้างที่อยู่ภายใน ถือว่าเป็นอันตรายอบ่าง สมควรนำไปเปลี่ยน ยาง ในทันที
ปัจจัยที่ 2. หมั่นตรวจเช็คอายุการใช้งานของ ยาง บ่อน เพราะยางรถควรเปลี่ยนฃที่อายุเกิน 3 ปี หรือผ่านการขับขี่มากกว่า 50,000 กิโลเมตรจะดีที่สุด ถ้าคตุณพบว่าที่ ยาง มีร่องรอยแตกลายงาที่เห็นได้อย่างชัดเจน มั่นใจได้เลยว่า ยาง เสื่อมสภาพแล้ว ควรนำรถไปเปลี่ยน ยาง เลยจะดีที่สุด
ปัจจัยที่ 3. สังเกตความลึกของดอกยาง ถ้าพบว่าดอกยางมีความลึกน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร หมายความว่าถึงเวลาที่คุณจะนำรถคู่ใจไปเปลี่ยน ยาง ใหม่ได้แล้ว ซึ่งผู้ทุกท่านสามารถวัดได้โดยใช้เกจวัดความลึกที่ร่องดอก ยาง หาซื้อได้ตามร้านอะไหล่ทั่วไปหรือช่องทางร้านขายอะไหล่ออนไลน์
ในการที่เราจะสามารถใช้รถใช้ถนนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ควรเลือกใช้ยางที่มีมาตรฐานและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด ยิ่งในสมัยนี้ ยาง รถประเภทต่างๆได้ถูกพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพการขับขี่กันอย่างมากมาย เช่น ยาง ที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ให้ผู้ใช้งานประหยัดเงินในกระเป๋ามากยิ่งขึ้น
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม จากผู้เขียน
ผู้เขียนนั้นเชื่ออย่างยิ่งว่า หลายๆท่านยังมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่รวมไปถึงการเติมน้ำกลั่น ซึ่งคุณผู้อ่าน เคยคิดเล่นๆกันใหมว่าเราสามารถใช้น้ำดื่มหรือน้ำประปา มาเติมแทนน้ำกลั่นให้กับแบตเตอรี่รถได้หรือไม่ และเคยรู้หรือไม่ว่าในน้ำเปล่านนั้นมีส่วนผสมของแร่ธาตุมากมายที่สามารถทำปฏิกิริยาทางเคมีส่งผลเสียมากกว่าที่คิด รวมไปถึงทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่น้อยลงอีกด้วย สามารถอ่านบทความที่น่าสนใจเหล่านี้ เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ songlorclub คลิกเลย
- Harley-Davidson Nightster 440 ราคาแสนต้นๆ ครุยเซอร์เล็ก ลูกครึ่งอินเดีย - September 10, 2024
- รีวิว สกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่จากฝั่งจีน Lingchen Kloninga 500 - September 20, 2023
- มาเเล้ว! กับบิ๊กสกู๊ตเตอร์ GT ตัวแรง Honda Forza 750 เวอร์ชั่น 2024 - September 13, 2023