เชื่อว่าเหล่าผู้ใช้งานหลายท่านยังคงตั้งตารอให้ทางแบรนด์ ยามาฮ่า ที่เปิดตัว รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อย่างรุ่น E01ที่ได้เคยมีการปล่อยทีเซอร์ออกมาก่อนหน้านี้ ให้เหล่าไบค์เกอร์ได้ชมหน้าตาของมัน ก่อนจะเงียบหายไประยะหนึ่ง จนเมื่อล่าสุดพวกเขาได้มีการเปิดตัว รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ขึ้นมาแต่ใช้ชื่อรุ่นเป้น Yamaha EMF แทนนั่นเอง
นอกจากนี้ทางค่าย ยังได้เปิดตัว EMF รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนานแท้ ในไต้หวันไปเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ทางด้านเสียงตอบรับก็ถือว่าทำได้ดีเนื่องจากได้รับความสนใจผู้บริโภคจากหลายๆประเทศเลยทีเดียว ด้วยรูปโฉมการออกแบบที่ถือว่าล้ำสมัย และขุมกำลังที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพราะฉะนั้นกับบทความสองล้อคลับครั้งนี้เราลองไปดูรายละเอียดกัน
การออกแบบดีไซน์ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นนี้
รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อย่าง Yamaha EMF โดยชื่อของมันนั้นย่อมาจาก Electro Motive Fighter ที่ได้รับการพัฒนาแบบอิสระสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยไม่ต้องมีการอ้างอิงกับแพลตฟอร์มของรถรุ่นใดรุ่นหนึ่งก่อนหน้านี้ ทำให้มันมีดีไซน์ที่แหวกแนวและดูเท่อย่างที่เราเห็น ระบบการสตาร์ทของตัวรถนั้น ก็ไม่ต้องใช้รีโมทหรือว่ากุญแจแต่อย่างใด ใช้เพียงแค่สมาร์ทการ์ดพกติดตัวเท่านั้น
ส่วนหน้าจอแสดงผลจะเป็นแบบดิจิตอล ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Y-Connect ได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟกต์เสียงสามแบบให้เลือก ได้แก่ “Material Pulse”, “Different” “Dimensional Space” และ “Virtual Magic Flow” ทางด้านระบบไฟส่องสว่างของ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นนี้จะเป็นแบบ LED Class-C (คล้ายกับในซีรี่ย์ MT ของทางค่ายเดียวกัน)
ความเป็นมาของเจ้า Yamaha EMF
EMF คือ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จาก Yamaha แบรนด์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง Yamaha เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก EMF ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ Gogoro สตาร์ทอัพ e-scooter สัญชาติไต้หวัน และสกู๊ตเตอร์ใช้แบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ของสกู๊ตเตอร์ Gogoro แตกต่างจาก Yamaha EC-05 ที่ใช้แพลตฟอร์มสกู๊ตเตอร์ Gogoro แชสซีของ EMF ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่โดยแบรนด์ ยามาฮ่า จนกลายมาเป็น รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สุดเท่อย่างที่เห็น
ด้านขุมพลังเเละเทคโนโลยี
ในขณะที่แรงม้าของ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คันนี้จะให้มาอยู่ที่ 10.3 PS และแรงบิด 26 Nm สามารถทำความเร็ว 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียงแค่ 3.5 วินาทีเท่านั้น ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าของตัวรถ จะมีการระบายความร้อนด้วยของเหลวด้วย ส่วนระบบกันสะเทือนนั้น ด้านหน้าจะเป็นแบบเทเลสโคปิก ส่วนด้านหลังเป็นแบบคู่ปรับได้ 5 ระดับด้วยกัน มาพร้อมดิสก์เบรกหน้าหลังแบบ UBS นั่นเอง
เเละเช่นเคยหากต้องการหากต้องการอ่านรีวิวมอเตอร์ไซค์ต่อหรือเลือกอ่านหาสาระที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมสามารถคลิกมาได้ที่ลิงค์ songlorclub คลิกเลย!
- Honda เผยโฉมต้นแบบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2 รุ่นที่งาน EICMA 2024 - November 7, 2024
- 5 วิธีทำให้รถวิ่งไกลขึ้น ที่ทำได้เองง่าย ๆ ด้วยน้ำมันเท่าเดิม - November 5, 2024
- เคาะราคาเปิดตัว Lambretta X200 GP ตกแต่งลาย Ink Splat 1969 - October 29, 2024