สำหรับ sr 400 นั้นผู้เขียนเคยรีวิวไปรอบครั้งนึงแล้วกับรุ่นนี้นั้นจัดเป็นเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีเสน่ห์เอามากๆ จะผลิตออกมากี่ครั้งก็ได้รับการตอบรับจากฐานลูกค้าเป็นอย่างดี และยังคงคงเอกลักษณ์ของความคลาสสิกเอาไว้ได้เสมอมา แม้ว่า SR จะผลิตกันออกมานานแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังสามารถพบเจอได้ทั่วไปบนท้องถนน ด้วยความนิยมที่ไม่เคยเสื่อมคลาย จนมาถึงในยุคปัจจุบันนี้เจ้า SR กำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่
นั่นก็คือการมาถึงของ จักรยานยนต์ที่ใช้ระบบหัวฉีดและระบบไฟฟ้าทำงานด้วยมอเตอร์ ที่ผู้คนสามารถใช้งานได้สะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่ายกว่าทั้งประเด็นของราคาและการใช้งาน แต่ถึงอย่างไรผู้เขียนเชื่อว่าเจ้ารถรุ่นนี้ก็ยังสามารถขายออก ซึ่งทางสองล้อคลับก็จะพาทุกท่านไปดูกันว่าเหตุผลใดที่ทำให้เหล่าไบค์เกอร์ถึงหลงรัก sr 400 รุ่นนี้กัน
เสน่ห์ของเจ้า sr 400
แค่ได้เห็นมอเตอร์ไซค์อย่าง sr 400 ในครั้งแรกนั้น จะให้ความรู้สึกเหมือนย้อนวัยไปอีกครั้งหนึ่ง ด้วยรูปทรงที่ยังคงเอกลักษณ์ความคลาสสิคเอาไว้ตลอดกาล บางคนที่ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องรถมาก่อนนั้นอาจจะมองดูเหมือนเป็นรถเก่าที่นำมาคัสตอมใหม่แต่เปล่าเลย เจ้ารนถรรุ่นนี้ได้พัฒนามาทั้งระบบหัวฉีดและดิสก์เบรกซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆมีเช่นเดียวกัน แต่เมื่อมามองดูรายละเอียดของโมเดลรถลึกลงไปอีก จะเห็นได้ว่าตรงส่วน บังโคลน แผงหน้าปัด สวิตส์ รวมไปถึงซี่ล้อ มันก็ให้อารมณ์แบบจักรยานยนต์สมัยก่อนจริงๆแหละ และนี่ก็คือจุดขายของ sr 400
5 จุดที่ทำให้คนหลงรัก sr 400
แม้เวลาจะผ่านมา 40 กว่าปีแล้วก็ตามแต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยคือรูปลักษณ์ของเจ้า sr 400 ซึ่งมีหลายอย่างที่ไม่สามารถหาได้ในรถคลาสสิครุ่นอื่นๆที่มีวางจำหน่ายอยู่ในบ้านเรา และกลายเป็นจุดเด่นให้รถรุ่นนี้มีแต่ผู้ที่อยากจะได้สัมผัสมันดูซักครั้งหนึ่ง มาดูกันว่า ห้าจุดที่ทำให้เหล่าไบค์เกอร์หลงรักจักยานยนต์รุ่นนี้มันมีประเด็นใหนบ้างที่น่าสนใจ
ประเด็นที่ 1 โคมไฟหน้าทรงกลม
แน่นอนว่าการดีไซน์ตามแบบฉบับมอเตอร์ไซค์คลาสสิคโดยใช้ไฟกลมนั้นมีออกมามากมายหลายรุ่นก็จริง แต่สำหรับรุ่น sr 400 นั้นใช้โคมไฟรูปแบบเดิมมาตลอด 43 ปี ไม่ว่าจะมีการผลิตออกมาใหม่ซักกี่ครั้ง และที่ยังเก๋ากว่านั้นคือมาถึงวันนี้ทางแบรนด์ยังใช้เป็น หลอดไฟไส้สีเหลืองอยู่เลย แต่มันก็ได้กลายมาเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เหล่าสาวกหลงรัก
ประเด็นที่ 2 โช้คอัพหน้าและหลังที่มาในสไตล์คลาสสิก
sr 400 ยังคงไว้ซึงเอกลักษณ์เดิมแบบเป๊ะๆ ในส่วนของโช้คหน้าแบบ เทเลสโคปิค และ โช๊คคู่ด้านหลัง ผู้เขียนก็พยายามหาเหตุผลว่าทำใมทางค่ายถึงไม่ลองเปลี่ยนเป็นแบบอื่นบ้างแต่แบบนี้ก็นั่งได้สบายดีอยู่แล้ว ด้วยระยะยุบด้านหน้ากว่า 150 มิลลิเมตร บวกกับการทำงานของโช้คคู่ด้านหลัง ก็ช่วยให้สามารถขยับล้อขึ้นลงได้กว่า 110 มิลลิเมตร
ประเด็นที่ 3 “kick start”
หรือการสตาร์ทเท้านั่นเอง บอกเลยว่า ณ ตอนนี้ในปัจจุบัน หาไม่เจอในรถรุ่นใหม่ๆอย่างแน่นอน แต่ sr 400 ก็ยังคงไว้ซึ่งมนเสนห์ของยุคคลาสสิกเอาไว้ ยังดีที่รุ่นหลังๆมานี้ได้ให้ก้านลดแรงอัดติดมาด้วย ไม่งั้นกว่าจะสตาร์ทติดได้มีกล้ามขึ้นน่องกันบ้างหละ ยังเพิ่มเติมมาในส่วนของช่องระบุตำแหน่งลูกสูบที่ด้านข้างฝาสูบช่วยให้ผู้ขับขี่ขยับตำแหน่งลูกสูบไปยังจุดที่เหมาะสมกับการสตาร์ทเครื่องยนต์ ช่วยให้จุดระเบิดติดเครื่องยนต์ได้ง่ายขึ้น และได้เปลี่ยนระบบจ่ายน้ำมันจากเดิมเป็นแบบหัวฉีด หากคุ้นชินกับจังหวะแล้ว สตาร์ทครั้งเดียวก็ติด
ประเด็นที่ 4 เครื่องยนต์แบบ “สูบเดี่ยวลูกโต”
ด้วยพิกัดเครื่องยนต์ 399 ซีซี บล็อกเดิม แค่มีการเพิ่มเติมมาในส่วนของระบบหัวฉีด แต่ไม่ต้องกังวลไม่มีผลต่อเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ SR แน่นอน ด้วยคุณสมบัติดูแลง่ายบวกกับตัวเลขแรงม้า 23.2 สามารถพาทุกท่านอออกเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกลได้ตามความต้องการ แม้จะมีอาการสั่นสะท้านมืออยู่บ้างแต่ก็ไม่ทำให้ความชอบใน sr 400 ของเหล่าสาวกลดลงเลยกลับมองว่านี่แหละคือเสน่ห์ด้วยซ้ำ
ประเด็นที่ 5 เฟรมเหล็ก-เปลคู่
สิ่งที่ทำให้ sr 400 เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความพิเศษมาตลอดก็คือ เฟรมเปลคู่รูปทรงกะทัดรัดกว่ารถทั่วไป เนื่องจากได้ตัวเมนเฟรมเป็นหม้อพักน้ำมันเครื่องด้วยนั่นเอง
สำหรับ sr 400 แม้มันจะขึ้นหิ้งเป็นมอเตอร์ไซค์คลาสสิคระดับตำนาน แต่ผู้เขียนก็ต้องขอคาราวะพร้อมบอกว่าเสียดายจริงๆเพราะ โรงงานที่ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเลิกผลิตเจ้า sr 400 ไปตั้งแต่ปี 2021 แล้ว เพราะฉะนั้นที่จำหน่ายอยู่ในโชว์รูมตอนนี้ก็กำลังจะเข้าสู่ล็อตสุดท้ายในอีกไม่นาน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำใมผู้เขียนถึงได้หยิบมอเตอร์ไซค์คลาสสิคอย่าง sr 400 ออกมารีวิวกันอีกครั้งถือเป็นการสั่งลารถที่ได้สร้างตำนานไว้กว่าสี่สิบปี
ติดตามรีวิวมอเตอร์ไซค์และบทความที่น่าสนใจของคนรักรถเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ songlorclub คลิกเลย
- Harley-Davidson Nightster 440 ราคาแสนต้นๆ ครุยเซอร์เล็ก ลูกครึ่งอินเดีย - September 10, 2024
- รีวิว สกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่จากฝั่งจีน Lingchen Kloninga 500 - September 20, 2023
- มาเเล้ว! กับบิ๊กสกู๊ตเตอร์ GT ตัวแรง Honda Forza 750 เวอร์ชั่น 2024 - September 13, 2023